เรียน คุณ art.WR,

เนื่องจากคุณไม่ได้ให้ข้อมูลว่ามีอาการอื่น ๆร่วมด้วยหรือไม่ อาการถ่ายเหลว เป็นมากและบ่อยขนาดไหน จึงแยกตอบเป็น 2 ประเด็น

1. กรณีรับประทานยาปฏิชีวนะเพื่อกำจัดเชื้อแบคทีเรียในทางเดินอาหาร ควรรับประทานยาต่อเนื่องอย่างน้อย 3 วัน ขนาดที่ใช้ทั่วไป คือ 400 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง เช้า เย็น ก่อนอาหาร

- ควรดื่มน้ำสะอาดตามมาก ๆหลังรับประทานยา เนื่องจากตัวยามีการละลายค่อนข้างน้อย และร่างกายมีการกำจัดยาออกทางปัสสาวะ

- ห้ามรับประทานยาร่วมกับนม ยาลดกรด (เคลือบกระเพาะ) หรือวิตามินที่เสริมธาตุเหล็ก เนื่องจากจะทำให้ตัวยาตกตะกอน มีการละลายลดลง ร่างกายจึงไม่สามารถดูดซึมยาได้

การที่คุณรับประทานยาปฏิชีวนะไม่ครบตามขนาดที่ใช้ในการรักษา จะทำให้เกิดโทษทั้งกับตัวคุณเองและระดับชาติ คือจะทำให้เกิดเชื้อดื้อยา ที่คุณและคนอื่น ๆที่มีการติดเชื้อที่ทนต่อยาปฏิชีวนะ ต้องใช้ยาปฏิชีวนะที่แรงเพิ่มขึ้น
และต้องใช้ติดต่อกันเป็นเวลานานขึ้น ดังนั้นหากได้รับยาปฏิชีวนะ จะต้องสอบถามให้เข้าใจและรับประทานยาติดต่อกันตามที่แนะนำจนครบ ยกเว้นจะเกิดอาการผิดปกติ เช่นมีผื่นแพ้ยา หรือ อาการไม่พึงประสงค์ที่รบกวนชีวิตประจำวัน เช่น อาเจียนหรือท้องเสียตลอดทั้งวัน เวียนศีรษะ บ้านหมุน เป็นต้น

2. กรณีท้องเสีย ถ่ายเหลวส่วนใหญ่มักไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ เพียงรับประทานยาเม็ดถ่าน ร่วมกับผงเกลือแร่ และรับประทานอาหารอ่อน ๆที่มีรสไม่จัด ก็เพียงพอในการรักษาอาการแล้ว แต่ถ้าอาการที่คุณเป็นอยู่ ยังคงเป็นอย่างต่อเนื่อง หรือมีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ เพื่อทำการตรวจหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป

หากมีข้อสงสัยเร่งด่วนเกี่ยวกับการใช้ยา สามารถสอบถามได้จากแพทย์หรือเภสัชกรร้านยาใกล้บ้าน ไม่ควรรอคำตอบจากทางหน้าเว็บ เนื่องจากอาจช้าไม่ทันการ เสี่ยงต่อการเกิดอันตรายต่อสุขภาพ หรือเกิดอาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยาได้

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล

แนะนำบทความดี ๆจากกองบรรณาธิการของเราที่

ท้องเสีย (Diarrhea)

ศาสตราจารย์เกียรติคุณ แพทย์หญิง พวงทอง ไกรพิบูลย์

วว.รังสีรักษา และเวชศาสตร์นิวเคลียร์

ยานอร์ฟลอกซาซิน (Norfloxacin)

เภสัชกร อภัย ราษฎรวิจิตร