กระดานสุขภาพ

อาหารเสริมลด นน. กับ ยาคุม
Anonymous

6 กันยายน 2560 00:06:57 #1

สวัสดีค่ะ ^^" ขอปรึกษาหน่อยนะคะ ถ้าเราทานอาหารเสริมลด นน. (ประเภทดักจับไขมัน เร่งเผาผลาญ) คู่กับยาคุมแบบ 21 เม็ด แต่คนละเวลากันคะ ถ้าเราทานอาหารเสริมตอนเช้า แล้วทานยาคุมช่วง 3 ทุ่ม จะทำให้มีผลต่อยาคุมไหมค่ะ ???
อายุ: 20 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 74 กก. ส่วนสูง: 166ซม. ดัชนีมวลกาย : 26.85 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Anonymous

6 กันยายน 2560 06:08:36 #2

เพิ่มเติมส่วนประกอบอาหารเสริมนะคะ สารสกัดจากโสม แอล คาร์นิทีน , แอล ทาเทรท สารสกัดจากผลส้มแขก ผงชะเอมเทศ สารสกัดจากพริก โคเอนไซม์ คิว เท็น สารสกัดจากกระบองเพชร สารสกัดจากขิง โครเมียม อะมิโน แอซิด คีเลต
ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผล

เภสัชกร

17 กันยายน 2560 17:02:23 #3

เรียน คุณ f5026,

ไม่แนะนำให้รับประทานร่วมกันนะครับ เนื่องจากไม่มีข้อมูลความปลอดภัยจากการใช้ "ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร" กลุ่มดังกล่าว และตัวยาบางตัวอาจดูดซับดักจับตัวยาที่เป็นฮอร์โมนที่ละลายได้ดีในไขมัน ทำให้ระดับยาในเลือดลดต่ำลง เสี่ยงต่อการตั้งครรภ์

จากส่วนประกอบที่แจ้งมา สารสกัดผลส้มแขกคือลดการเปลี่ยนจากแป้งเป็นน้ำตาล ดังนั้นหากคุณชอบรับประทานอาหารมัน ๆ เช่น หมูปิ้ง ขาหมู หมูกรอบ ก็ไม่ช่วยอะไร ส่วนผงชะเอมเทศ และโครเมียมมีการทดลองพบว่าช่วยลดน้ำตาลในเลือดในผู้ป่วยเบาหวานได้ แต่ไม่มีการทดลองในคนปกติ ส่วนสารสกัดจากโสม กรดอะมิโนแอล-คาร์นิทีน แอล-ทาร์เทรต เป็นกรดอะมิโนสำคัญที่ใช้เร่งการเผาผลาญพลังงาน แต่จะได้ผลดีก็ต่อเมื่อมีการออกกำลังกายร่วมด้วย หากรับประทานแล้วนั่งเฉย ๆก็ไม่ได้ส่งผลอะไร

สรุป คือ หากต้องการควบคุมน้ำหนักอย่างยั่งยืน ให้ปรับพฤติกรรมสุขภาพ โดย

1. อาหาร เลือกรับประทานอาหารที่ดี มีประโยชน์ เน้นผักสด ผลไม้ที่มีรสไม่หวานจัด ปรับสัดส่วนอาหารเป็นผักครึ่งหนึ่ง โปรตีนจากเนื้อสัตว์อีก 1 ใน 4 ส่วน เลือกที่ย่อยง่าย ไขมันต่ำ เช่น เนื้อปลา เนื้อไก่ (ไม่เอาหนัง) แป้งอีก 1 ใน 4 ส่วน เลือกแป้งที่ไม่ผ่านการขัดสี เช่น ข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือ ขนมปังโฮลวีต ขนมปังมัลติเกรน
เลือกการปรุงอาหาร นึ่ง/ต้ม > อบ > ผัด/ทอด เพื่อลดปริมาณไขมันเข้าสู่ร่างกาย ปรับขนาดภาชนะบรรจุอาหารให้เล็กลง ปรับสัดส่วนการรับประทานอาหาร เป็น หนัก - มื้อเช้า เบา-มื้อเที่ยง เลี่ยง-มื้อเย็น เว้น-มื้อดึก เนื่องจากใกล้เวลาเข้านอนแล้ว ร่างกายไม่ได้นำพลังงานไปใช้อะไร รับประทานไปก็นำไปเก็บเป็นไขมันตามร่างกาย และยังเสี่ยงต่อการเกิดโรคกรดไหลย้อนอีกด้วย

2. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ อย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน และอย่างน้อย 5 วันต่อสัปดาห์ หากไม่มีเวลาไปออกกำลังกาย ก็ให้เลือกใช้การเดินแทนการขึ้นลิฟต์หรือบันไดเลื่อน หรือนั่งรถ การยืนหรือเดินแกว่งแขนอย่างน้อย 100 ครั้งต่อวัน ก็เป็นการออกกำลังกายได้ เลือกวิธีที่ีชอบและไม่รู้สึกเบื่อ เช่น ว่ายน้ำ วิ่ง เดินเร็ว ปั่นจักรยาน ฯ นอกจากช่วยเผาผลาญไขมันแล้ว ยังเพิ่มกล้ามเนื้อ ช่วยเร่งการเผาผลาญพลังงาน กล้ามเนื้อกระชับ ไม่ย้อย หรือย้วย ลดการเกิดเซลลูไลต์

3. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 6-8 ชั่วโมงต่อวัน และควรเข้านอนก่อนเวลา 22.00 น. เนื่องจากช่วงที่ร่างกายหลับสนิท ประมาณ เที่ยงคืนถึงตีหนึ่ง จะเป็นช่วงที่ต่อมใต้สมองมีการหลั่ง Growth Hormone ที่ช่วยในการเจริญเติบโต หรือซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย ลดการถูกทำลายของ Collagen (ที่ร่างกายสามารถสร้างได้เองตามธรรมชาติ) ลดการหลั่งฮอร์โมนความเครียดคอร์ติซอลจากต่อมหมวกไต ที่่มีการหลั่งเวลาร่างกายเกิดความเครียด เช่น อดอาหาร อดนอน นอนดึก เครียดจากงาน ฯ

คอร์ติซอลนี้เป็นสารสเตียรอยด์ ที่ช่วยในการช่วยชีวิต มีการเก็บกักน้ำตาล ทำให้อ้วนและเสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน เก็บกักโซเดียม ทำให้บวมน้ำ ความดันโลหิตสูง เก็บกักแคลเซียม ทำให้เสี่ยงต่อภาวะกระดูกพรุน เป็นต้น และยังเร่งการทำลายของคอลลาเจน/อีลาสติน ทำให้หน้าทรุดโทรม เหี่ยวย่น เกิดรอยยับง่าย เป็นสิวง่าย

4. ขับถ่ายให้เป็นเวลา ทุกวัน เพื่อเร่งการกำจัดของเสีย ลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่

หากปฏิบัติตามนี้ ก็ไม่จำเป็นต้องเปลืองค่าใช้จ่ายไปกับผลิตภัณฑ์ "เสริมอาหาร" ที่ผลการตอบสนองขึ้นกับ "แต่ละบุคคล" You are What You Eat / สุขภาพดี ไม่มีขาย อยากได้ ต้องสร้างเองนะครับ
กรณีมีข้อสงสัยเร่งด่วนเกี่ยวกับการใช้ยา สามารถสอบถามได้จากแพทย์หรือเภสัชกรร้านยาใกล้บ้าน ไม่ควรรอคำตอบจากทางหน้าเว็บ เนื่องจากอาจช้าไม่ทัันการ เสี่ยงต่อการตั้งครรภ์หรือเกิดอันตรายจากการใช้ยาได้

 

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล

 

แนะนำบทความดี ๆจากกองบรรณาธิการของเราที่

ยาเม็ดคุมกำเนิด (Birth control pill)

แพทย์หญิง กีรติ ลีละพงศ์วัฒนา

สูตินรีแพทย์

ยาที่ลดประสิทธิภาพยาคุมกำเนิด (Common medications that reduce efficacy of birth control medications)

ภก. กรชัย ฉันทจิรธรรม