กระดานสุขภาพ

ใช้ยา Hirudoid และ Betadine บ่อยๆ มีผลเสียต่อร่างกายหรือไม่?
Ann_*****g

3 พฤษภาคม 2560 17:51:57 #1

คือจะทา Hirudoid (สีแดง) ให้ญาติผู้ใหญ่ เมื่อเกิดรอยจ้ำเขียวๆ ตามผิวหนัง ซึ่งเขาเป็นบ่อยๆ แต่พอจ้ำเลือดหายก็หยุดทา แต่เราจะบีบใส่นิ้วและทาลงบนผิวให้เขาเลย

 

ขณะที่ตัวเองมักใช้ Betadine ทาสิวบ่อยๆ เพราะใช้แล้วสิวมักจะยุบ โดยเฉพาะพวกสิวอักเสบเม็ดโตๆ เจ็บๆ

 

เลยอยากทราบว่า ใช้ยา 2 ตัวนี้บ่อยๆ มีอันตรายต่อร่างกายไหมคะ และควรใช้ยังไงเพื่อไม่ให้เกิดผลเสียต่อร่างกายเราน่ะค่ะ

 

ขอบคุณค่ะ

อายุ: 47 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 27 กก. ส่วนสูง: 125ซม. ดัชนีมวลกาย : 17.28 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผล

เภสัชกร

8 พฤษภาคม 2560 01:54:32 #2

เรียน คุณ ann_thong,

ขออนุญาตแยกตอบเป็น 2 ประเด็นนะครับ

1. ตัวยา Hirudoid หรือ heparinoid ที่เป็นตัวยาที่ช่วยในการยับยั้งการเกาะกลุ่มของเกล็ดเลือดในหลอดเลือดใต้ผิวหนัง จึงช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น จึงช่วยลดปริมาณของเสีย เลือดเสียที่ตกค้างอยู่ และลดอาการบวม แดง สีดำคล้ำลงได้ แต่มีประเด็นคือไม่ควรใช้กับแผลเปิด เนื่องจากจะดูดซึมเข้าไปในร่างกายปริมาณมาก จนเ่สี่ยงต่อการเกิดเลือดออกภายในอวัยวะร่างกายได้ และควรหาสาเหตุว่าสาเหตุจากรอยจ้ำเขียวที่เกิดบ่อย ๆนั้น เกิดเพราะอะไร เป็นจากการรับประทานยาป้องกันการเกิดหลอดเลือดอุดตัน หรือยาละลายลิ่มเลือด หรือเกิดจากการขาดวิตามิน เค ที่ช่วยให้เลือดหยุดไหลได้ง่าย หรือเป็นจากการเดินชนโต๊ะเก้าอี้ เนื่องจากสายตาไม่ดี
การทายาจึงเป็นการช่วยบรรเทาอาการที่ปลายเหตุเท่านั้น

2. ตัวยา Povidone iodine หรือที่เรียกติดปากกันว่า Betadine เป็นยาที่ช่วยยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย
หากไม่ได้มีอาการแพ้ยาหรือส่วนประกอบ ก็สามารถใช้ได้ ทั้งนี้ไม่ควรใช้ยาในแผลเปิดที่เป็นบริเวณกว้าง เนื่องจากตัวยาอาจเกิดการดูดซึม จนเกิดอาการพิษจากไอโอดีนได้

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล

แนะนำบทความดี ๆจากกองบรรณาธิการของเรา่ที่

  • ฮีรูดอยด์ (Hirudoid) เฮปารินอยด์ (Heparinoid) เภสัชกร อภัย ราษฎรวิจิตร
  • โพวิโดน-ไอโอดีน (Povidone-iodine) เภสัชกร อภัย ราษฎรวิจิตร