กระดานสุขภาพ

มีโอกาสตั้งครรภ์หรือไม่
Au19*****5

7 เมษายน 2560 01:52:57 #1

กราบเรียน คุณหมอ

สวัสดีค่ะคุณหมอ ดิฉันอยากสอบถามคุณหมอค่ะว่า ดิฉันได้ทานยารักษาโรคกระเพาะอาหาร และได้กังวลว่าจะมีผลต่อยาคุมกำเนิด โดยจะทำให้ลดประสิทธิภาพของยาคุมกำเนิดหรือไม่ หากทานยาเหล่านี้ก่อนยาคุมกำเนิด 1 ชั่วโมง (พึ่่งเริ่มทานยาแผงที่ 24 เม็ดแรก) ซึ่งได้แก่

1. ยาลดกรด ***

2. ยาลดกรด ***

3. ยาธาตุน้ำแดง ***

4. ยาหอม ***

กราบขอบคุณ คุณหมอสำหรับคำตอบล่วงหน้านะคะ

อายุ: 31 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 47 กก. ส่วนสูง: 157ซม. ดัชนีมวลกาย : 19.07 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Haamor Admin

(Admin)

8 เมษายน 2560 08:04:03 #2

ถึง คุณ rau1985

เพื่อความเหมาะสมในการใช้สื่อสาธารณะ ทาง Admin ขออนุญาตลบชื่อทางการค้าออกจากหน้าเว็บนะคะ และทาง Admin ได้ส่งเนื้อหาทั้งหมดของคำถามให้ทางคุณหมอเรียบร้อยแล้วนะคะ ดังนั้น คุณ au1985 ยังสามารถติดตามคำตอบของคุณหมอได้เช่นเดิมคะ

ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผล

เภสัชกร

9 เมษายน 2560 13:04:51 #3

เรียน คุณ au 1985,

เป็นการดีหากคุณสอบถามยาหรือผลิตภัณ์เสริมอาหาร สมุนไพร "ก่อน" เริ่มต้นการใช้ร่วมกับยาคุมกำเนิด เนื่องจากอาจเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์หรือเกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ โดยขอตอบแยกตามรายการที่คุณสอบถามมานะครับ เนื่องจากต้องมีการประเมินปฏิกิริยาระหว่างยา แต่ละรายการ

1 และ 2 ยาลดกรดเคลือบกระเพาะ ตัวยาคือ Aluminium & Magnesium Hydroxide ใช้เพื่อลดความเป็นกรดในทางเดินอาหาร ตัวยาประกอบด้วยธาตุโลหะเชิงซ้อน มักทำให้ตัวยาอื่นตกตะกอน หรือมีการละลายลดลง นอกจากนั้นอาจเคลือบทางเดินอาหาร จึงลดการดูดซึมยาหลายชนิด หากจำเป็นต้องรับประทานยาลดกรดเคลือบกระเพาะดังกล่าว ควรรับประทานยาหลังจากยาชนิดอื่น ๆอย่างน้อย 2 ชั่วโมง หรือหากรับประทานยาลดกรดไปแล้ว ควรเว้นห่างจากยาอื่น ๆอย่างน้อย 4 ชั่วโมง เพื่อลดโอกาสในการเกิดปฏิกิริยาระหว่างกัน "ยาตีกัน" จนเสี่ยงต่อยาที่ต้องการ (ในที่นี้คือยาคุมกำเนิด) ไม่ได้ประสิทธิภาพตามต้องการ

3. ยาธาตุน้ำแดง ส่วนประกอบหลัก ๆมักเป็นสมุนไพร เช่น สารสกัดจากพริก ขิง peppermint และ Sodium bicarbonate ตัวหลังนี้เองที่มีฤทธิ์เป็นด่าง จึงทำให้การละลายของตัวยาอื่น ๆลดลงได้ จึงควรเว้นหลังจากรับประทานยาอื่น ๆ 1-2 ชั่วโมงเช่นกัน

4. ยาหอม ส่วนประกอบหลักเป็นสมุนไพร ที่ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของโลหิต ช่วยเรื่องการทำงานของหัวใจ ยังไม่มีรายงานการเกิดปฏิกิริยาระหว่างยานี้กับยาคุมกำเนิด

สรุปคือ หากมีการแสบร้อนกลางอก ในช่วงเวลาที่ต้องรับประทานยาคุมกำเนิด หากหลีกเลี่ยงได้ ควรรับประทานยาคุมกำเนิดก่อนอย่างน้อย 2 ชั่วโมง ก่อนรับประทานยาลดกรดเคลือบกระเพาะ แต่หากคุณเกิดอาการแสบร้อนทางเดินอาหารมาก ไม่สามารถรอได้ ก็ให้รับประทานยาลดกรดเคลือบกระเพาะไป แต่ให้ปรับเวลาการรับประทานยาคุมกำเนิดไปเป็นมื้อเช้าแทน เพื่อเว้นช่วงห่างจากกันให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ เนื่องจากยาลดกรดเคลือบกระเพาะ ทำให้ตัวยาคุมกำเนิดถูกดูดซึมน้อยลง 30-40 เปอร์เซ็นต์

กรณีของคุณหากเป็นการรับประทานยาร่วมกัน โดยเฉพาะช่วง 7 วันแรก หากจำเป็นต้องมีเพศสัมพันธ์ ต้องใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วย เพื่อลดความเสี่ยงในการตั้งครรภ์ จากการที่ตัวยาคุมกำเนิดมีการละลายและถูกดูดซึมลดลง

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล

แนะนำบทความดี ๆจากกองบรรณาธิการของเราที่

  • ยาลดกรด (Antacids) พรลภัส บุญสอน เภสัชกร
  • ยาธาตุน้ำแดง (Mixture stomachica) และยาธาตุน้ำขาว (Salon and Menthol Mix ture) ภก. กรชัย ฉันทจิรธรรม เภสัชกร
  • ยาหอม (Balsum) ภก. กรชัย ฉันทจิรธรรม เภสัชกร
Au19*****5

13 เมษายน 2560 07:50:04 #4

ขอบคุณคุณหมอมากนะคะ สำหรับคำตอบ อยากสอบถามเพิ่มเติมค่ะ 1. คือดิฉันทานยาแผงที่ 30 ไปได้ 2 วัน(ขอแก้ไขข้อมูลด้านบนจากแผงที่ 24 เป็นแผงที่ 30) แล้วมีเพศสัมพันธ์หลั่งข้างนอก ไม่ได้หลั่งใน ไม่ได้ใช้ถุงยางอนามัย แบบนี้มีโอกาสตั้งครรภ์ไหมคะ? 2. โดยปกติกินยาทุกวันไม่เคยลืมอาจมีช้าบ้าง ไม่เกิน 2 ชั่วโมง อีกอย่างดิฉันกินยามาหลายแผงแล้ว จึงอยากถามว่าปริมาณยาหรือประสิทธิภาพยาที่อยู่ในร่างกายยังคงป้องกันการตั้งครรภ์หรือไม่