กระดานสุขภาพ

ทานยาฆ่าเชื้อกลุ่มcloxacillinกับยาคุมเมอลิแอน
Anonymous

28 มีนาคม 2559 06:58:09 #1

พอดีหนูทานยาคุมเมอลิแอนกับยาฆ่าเชื้อกลุ่มนี้คะ ทาน 7วัน สองวันสุดท้ายของการทานยาฆ่าเชื้อประจำเดือนเริ่มมาคะหนูทานยาคุมได้ครึ่งหนึ่งเองนะคะยังไม่หมดแผงเลย แต่หนูก็ทานยาคุมต่อไม่ได้หยุด พอทานยาคุมได้อีกสามวันประจำเดือนมาเหมือนปกติเลย หนูแปลกใจมากคะ ตอนนี้หนูก็ทานยาคุมต่อมาจนใกล้หมดแผงแล้ว ถ้าหนูมีไร กับแฟนจะท้องไหมคะ
อายุ: 26 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 47 กก. ส่วนสูง: 161ซม. ดัชนีมวลกาย : 18.13 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Anonymous

28 มีนาคม 2559 07:06:08 #2

คือหนูไม่แน่ใจว่ายายังมีประสิทธิภาพอยู่หรือเปล่า แล้วทำไมประจำเดือนมาทั้งๆที่ยายังทานไม่หมด และเปอร์เซ็นท้องเท่าไหร่คะ
Anonymous

1 เมษายน 2559 15:43:05 #3

รบกวนตอบด้วยคะ ขอบคุณคะ
ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผล

เภสัชกร

1 เมษายน 2559 16:25:39 #4

ขอแยกตอบเป็น 2 ประเด็นนะครับ

1. ยาปฏิชีวนะกลุ่มเพนิซิลลินส่งผลต่อการดูดซึมฮอร์โมนในยาคุมกำเนิดกลับเข้าสู่กระแสเลือดซ้ำอีก จึงทำให้ระดับยาในเลือดลดต่ำลง จนเยื่อบุโพรงมดลูกมีการหลุดลอกฉีกขาดก่อนกำหนด
จนคล้ายเลือดประจำเดือนมาก่อนกำหนด โดยเฉพาะปัจจุบันที่ยาคุมกำเนิดเป็นชนิดฮอร์โมนต่ำ
เมื่อลดระดับลงเล็กน้อยก็ส่งผลให้เยื่อบุโพรงมดลูกฉีกขาดหลุดลอกได้ง่ายขึ้น
แต่เนื่องจากยาปฏิชีวนะใกล้จะครบกำหนดแล้ว. ให้รับประทานยาคุมกำเนิดตามปกติ แต่หากจำเป็นต้องมีเพศสัมพันธ์ในช่วงนี้ที่ยาคุมกำเนิดยังไม่หมดแผง ให้ใช้การสวมถุงยางอนามัยร่วมด้วย เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการคุมกำเนิด

2. โอกาสเสี่ยงในการตั้งครรภ์คงตอบได้ยาก เนื่องจากมีหลายปัจจัยทั้งการรับประทานยาตรงต่อเวลา ไม่เคยลืมรับประทานยา รับประทานยาด้วยน้ำเปล่าสะอาดเท่านั้น เนื่องจากเครื่องดื่มหลายชนิดมีผลลดการละลายของตัวยา ร่างกายมีการดูดซึมยาได้น้อยลง เช่น ชา (รวมถึงชาเขียว) กาแฟ โกโก้ นม โยเกิร์ตพร้อมดื่ม น้ำเต้าหู้ น้ำอัดลม โซดา เป็นต้น หรือน้ำผลไม้บางชนิดจะกระตุ้นให้ตับที่เป็นแหล่งเผาผลาญหรือกำจัดยา มีการผลิตเอนไซม์หรือน้ำย่อยเพิ่มมากขึ้น ร่างกายจึงเผาผลาญหรือกำจัดยาได้มากและเร็วขึ้น จนระดับยาในเลือดลดต่ำลง เช่น น้ำส้มคั้น น้ำเกรปฟรุต น้ำแอปเปิ้ล น้ำแครนเบอร์รี เป็นต้น.

สรุปคือระดับยาในเลือดลดต่ำลงแน่ๆครับ สังเกตได้จากการมีเลือดออกกะ ริบกะ รอยคล้ายเลือดประจำเดือนมาก่อนกำหนด ดังนั้นหากจำเป็นต้องมีเพศสัมพันธ์ ควรใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วย จนถึงหลังยาปฏิชีวนะครบแล้ว 7 วัน
ขอแนะนำเพิ่มเติม หากมีข้อสงสัยเร่งด่วนเกี่ยวกับการใช้ยา สามารถสอบถามได้จากเภสัชกรร้านยาใกล้บ้าน ไม่ควรรอคำตอบจากทางหน้าเว็บ เนื่องจากอาจช้าไม่ทันการ เสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ได้

หากจำเป็นต้องรับบริการทางการแพทย์ ต้องแจ้งแพทย์ ทันตแพทย์ หรือเภสัชกรทุกครั้งว่ากำลังใช้ยาใดอยู่ และไม่ควรซื้อยาหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใดๆมาใช้ร่วมกันโดยไม่ได้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร เนื่องจากอาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างกัน "ยาตีกัน" จนยาที่ใช้รักษาโรคไม่ได้ผล หรือเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ได้

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล
แนะนำบทความดีๆจากกองบรรณาธิการของเรา
ยาเม็ดคุมกำเนิด (Birth control pill)
แพทย์หญิง กีรติ ลีละพงศ์วัฒนา
สูตินรีแพทย์

Anonymous

9 เมษายน 2559 14:35:27 #5

ขอบคุณคะ สำหรับคำตอบ ช่วยได้มากเลยคะ