เรียน คุณ 49753

โดยลักษณะเบื้องต้น หากไปพบแพทย์มักจะให้รับประทานยาคุมกำเนิดชนิดใดก็ได้ที่เหมาะสมกับร่างกาย เพื่อปรับฮอร์โมนเพศให้เข้าสู่สมดุล โดยเฉพาะคุณยังอยู่ในช่วงวัยรุ่น ยังมีระดับฮอร์โมนเพศไม่คงที่ จึงอาจทำให้ประจำเดือนมาช้าบ้าง เร็วบ้าง หรือมากบ้าง น้อยบ้าง ช่วงที่รับประทานยาคุมกำเนิดเพื่อปรับฮอร์โมนเพศ จึงอาจทำให้มีอาการปวดท้องน้อย คล้ายกับช่วงก่อนมีประจำเดือนได้ หากไม่ได้มีอาการปวดรุนแรงขึ้น ร่วมกับมีเลือดประจำเดือนมาผิดปกติ เช่น มาเป็นก้อนเลือด สีคล้ำผิดปกติ หรือมีเลือดประจำเดือนกะปริบกะปรอยตลอดเดือน ก็เป็นอาการปกติของช่วงแผงแรกที่รับประทานยาคุมฯครับ ส่วนใหญ่ประมาณ 2-3 เดือนอาการจะดีขึ้น แล้วจึงค่อยหยุดรับประทานยา หากไม่มีความผิดปกติภายใน ประจำเดือนมักจะมาตามปกติเองครับ หลังจากอาการดีขึ้นแล้ว ต้องดูแลและปรับพฤติกรรมสุขภาพ ทั้งการรับประทานอาหารที่ดีมีสารอาหารครบถ้วน นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกกำลังกายสม่ำเสมอ รวมถึงพยายามดูแลสุขภาพร่างกายและจิตใจไม่ให้เครียด เนื่องจากภาวะเครียดเป็นสาเหตุหนึ่งของภาวะขาดประจำเดือนได้ แต่หากผ่านไป 2-3 เดือนแล้ว ประจำเดือนยังไม่มาตามปกติ แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายโดยละเอียดจะได้ทราบถึงสาเหตุที่แท้จริงต่อไป

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล

แนะนำบทความดี ๆจากกองบรรณาธิการของเราที่ ภาวะขาดประจำเดือน (Amenorrhea) รองศาสตราจารย์ แพทย์หญิง ประนอม บุพศิริ สูตินรีแพทย์