เรียน คุณ bcf54,

ตอบได้ทั้ง 2 แบบครับ คือ

1. ได้ หากอาการของโรคแผลในทางเดินอาหารไม่รุนแรง หรือรักษาหายขาดแล้ว ไม่เคยมีเลือดออกทางอุจจาระ หรืออาเจึยนเป็นเลือด โดยอาจให้เริ่มจากขนาดยาต่ำ ๆก่อน ร่วมกับการรับประทานยาพาราเซตามอลร่วมด้วย เพื่อลดขนาดยา และให้รับประทานยาพร้อมอาหารหรือหลังอาหารทันที ร่วมกับการดื่มน้ำสะอาดมาก ๆ และรับประทานเฉพาะช่วงเวลาสั้น ๆ เมื่อมีอาการเท่านั้น โดยยานี้มีคุณสมบัติช่วยบรรเทาอาการปวด ลดอาการอักเสบ บวม แดง หรือไข้ ไม่ได้ช่วยในเรื่องของอาการมึน วิงเวียนศีรษะ บ้านหมุนครับ

2. ไม่แนะนำ ในกรณีที่มีแผลในทางเดินอาหารรุนแรง เช่น มีการตรวจส่องกล้องแล้วพบว่่ากำลังเป็นแผล หรือมีเลือดออกในอุจจาระ หรืออาเจียนเป็นเลือด หรือมีภาวะของโรคไตร่วมด้วย หรือมีความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด

เมื่อต้องเข้ารับบริการทางการแพทย์ ต้องแจ้งแพทย์และเภสัชกรถึงโรคประจำตัว อาการแพ้ยาก่อนทุกครั้ง เพื่อจะได้จัด-จ่ายยาที่ถูกต้อง เหมาะสมกับอาการและภาวะการทำงานของตับ หรือ ไต ทั้งนี้ควรรับประทานยาเฉพาะเมื่อมีอาการเท่านั้น หาก 2-3 วันแล้วอาการไม่ดีขึ้น หรือมีอาการรุนแรงขึ้น ควรหยุดยาและรีบไปพบแพทย์ เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป เช่น ภาวะสายตาเปลี่ยนแปลง หรือมีน้ำในช่องหูไม่เท่ากัน หรือมีไขมันอุดตันในหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงสมอง ฯ

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล