กระดานสุขภาพ

ผมถอดเล็บมาและหมอจัดยา 2 ตัวนี้มา
Anonymous

10 มิถุนายน 2558 12:17:25 #1

แผลยังมีอาการอักเสบอยู่ 

อยากทราบว่า Clindamycin 300 mg และ Sultamicillin 750 mg คือ ยานี้ ใช้รักษา โรคใดได้บ้าง อยากรู้วิธีการใช้ยา ทั้ง 2 ตัวนี้ที่ถูกต้องด้วย บางคนเขาก้บอกว่าทานก่อนอาหาร บ้างคนก้บอกว่าทานหลังอาหาร หรือว่าทานตอนไหนก็ได้ครับ ทานแล้ว แผลหายเร็วหรือ? ทำไมแพทย์ต้องจัดยาแรง 

ยา 2 ตัวนั้นที่หมอจัด ผมทานแล้วรู้สึก แน่น จุก และแสบหน้าอก

หรือว่ายาอาจจะไม่แรงแต่เป้นที่ผมแพ้ยาเอง

ผมสามารถทาน Augclav 1000 mg แทนได้หรือไม่

ขอบคุณมากๆ สำหรับคำตอบน่ะครับ

 

อายุ: 31 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 92 กก. ส่วนสูง: 175ซม. ดัชนีมวลกาย : 30.04 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผล

เภสัชกร

18 มิถุนายน 2558 13:13:08 #2

เรียน คุณ f3027,

ตัวยาทั้งสองตัวเป็นยาที่ครอบคลุมเชื้อแบคทีเรียแกรมบวก (ที่มักมีอยู่ตามผิวหนัง ที่เป็นสาเหตุของแผล ฝี หนอง) และเชื้อแบคทีเรียแอนแอโรบิก คือ ชนิดที่ไม่ใช้อากาศในการเจริญเติบโต ที่มักมีอยู่ตามใต้ชั้นผิวหนังหรือซอกอับต่าง ๆ (เช่น ซอกเล็บมือ โดยเฉพาะที่เท้า) โดยข้อมูลตัวยานั้น ตัวยาสามารถรับประทานยาก่อนหรือหลังอาหารก็ได้เนื่องจากไม่มีผลต่อการดูดซึม แต่การรับประทานยาพร้อมอาหารหรือหลังอาหารทันที จะช่วยลดอาการไม่พึงประสงค์ที่เกิดต่อระบบทางเดินอาหาร เช่น คลื่นไส้ อาเจียน จุกแน่นท้อง ฯ ทั้งนี้หลังรับประทานยาควรดื่มน้ำสะอาดตามมาก ๆ เนื่องจากมักพบปัญหาแคปซูลยา clindamycin เกาะติดที่หลอดอาหาร เมื่อแคปซูลยาละลาย จึงเกิดความเข้มข้นสูงเฉพาะจุด ระคายเคืองมากกว่าในกระเพาะอาหารที่มีความหนามากกว่า และมีน้ำย่อยมาช่วยเจือจางตัวยา เนื่องจากคุณไม่ได้ให้ข้อมูลมาในเรื่องของจำนวนเม็ดยาและระยะเวลาที่ต้องใช้รับประทาน ขอแนะนำเพิ่มเติมหากไม่มีอาการแพ้อาหารจำพวกนม ควรรับประทานนมเปรี้ยว (ต้องเป็นชนิดเชื้อเป็น ไม่ใช่ชนิดบรรจุกล่อง UHT ที่เป็นการผสมกับน้ำผลไม้ เพื่อปรุงแต่งรสชาติ) หรือโยเกิร์ต เสริมวันละ 2 ขวดเล็ก หรือ 2 กระป๋องเล็ก โดยควรเลือกเป็นชนิดหวานน้อย หรือปราศจากน้ำตาล เพื่อช่วยปรับสภาพลำไส้ ให้มีเชื้อประจำถิ่นต่อต้านกับเชื้อที่ทำให้เกิดอาการท้องเสีย หรือถ่ายเหลว

ส่วนของตัวยา co-amoxiclav ที่คุณสอบถามมานั้น มีความครอบคลุมเชื้อใกล้เคียงกับ sultamicillin แต่มักทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์ด้านท้องเสีย ถ่ายเหลว หรือแน่นท้อง ท้องอืดมากกว่า แพทย์จึงเลือกใช้ตัวยานี้แทน 

ขอแนะนำเพิ่มเติม หากมีข้อสงสัยเร่งด่วนเกี่ยวกับการใช้ยา สามารถสอบถามได้จากแพทย์หรือเภสัชกรประจำร้านยาใกล้บ้าน เพื่อทำความเข้าใจก่อนเริ่มต้นใช้ยา จะได้เกิดประโยชน์จากการใช้ยาสูงสุด และเกิดอันตรายจากการใช้ยาน้อยสุด ไม่ควรรอคำตอบจากทางหน้าเว็บ ซึ่งอาจช้าไม่ทันการ หรือไม่ตรงกับข้อสงสัย อาจเกิดอันตรายถึงชีวิตได้

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล