เรียน คุณ f9d6d,

จากข้อมูลที่คุณให้มานั้น ประจำเดือนมาวันแรกวันที่ 18 พ.ค. สามารถรับประทานยาคุมฯล่าช้าได้ถึงวันที่ 23 พ.ค. โดยที่ไม่จำเป็นต้องใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วย แต่คุณรับประทานยาวันที่ 31 พ.ค. ซึ่งเลยกำหนดที่ควรรับประทานยามา 1 สัปดาห์ ใกล้เคียงกับช่วงที่มีไข่ตก ดังนั้น ช่วงนี้แนะนำให้หยุดการรับประทานยาคุมกำเนิดไปก่อน และรอจนกว่าประจำเดือนจะมา เพื่อยืนยันว่าไม่มีการตั้งครรภ์ จากนั้นจึงเริ่มต้นรับประทานยาคุมกำเนิดแผงใหม่ และต้องรับประทานยาเม็ดแรก ภายในวันแรกที่มีประจำเดือน เพื่อให้ตัวยาออกฤทธิ์ยับยั้งไม่ให้มีไข่ตกได้ ตั้งแต่รับประทานยาเม็ดแรกครบ 24 ชั่วโมง

ช่วงนี้หากจำเป็นต้องมีเพศสัมพันธ์ ให้ใช้วิธีการสวมถุงยางอนามัยก่อนนะครับ ส่วนยาแผงเดิม สามารถเก็บไว้เป็นแผงสำรอง กรณีทำเม็ดยาร่วงหล่น หรืออาเจียน หรือท้องเสีย

การรับประทานยาที่ถูกต้อง คือ

- รับประทานยาในช่วงเวลาเดียวกันของทุกคืน เพื่อให้ระดับยาในเลือดสม่ำเสมอตลอดวัน ป้องกันไม่ให้เกิดภาวะเลือดออกกะปริบกะปรอย แนะนำให้เป็นเวลาก่อนนอน เพื่อป้องกันภาวะคลื่นไส้ อาเจียน

- รับประทานยา "ทุกชนิด" ด้วยน้ำเปล่าสะอาดเท่านั้น เนื่องจากเครื่องดื่มอื่น ๆอาจทำให้ตัวยาตกตะกอน ร่างกายไม่สามารถดูดซึมยาได้ เช่น ชา (รวมถึงชาเขียว) กาแฟ นม น้ำเต้าหู้ น้ำอัดลม โซดา โกโก้ โยเกิร์ต ฯ หรือน้ำผลไม้บางชนิดจะกระตุ้นให้ตับมีการสร้างเอนไซม์หรือน้ำย่อยที่ใช้กำจัดยา ทำให้ระดับยาในเลือดลดต่ำลง ไม่สามารถออกฤทธิ์ยับยั้งไม่ให้มีไข่ตกได้

- ไม่ควรลืมรับประทานยา เนื่องจากเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ได้

- ไม่ซื้อยาหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใด ๆมาใช้ร่วมกัน "ก่อน" การปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร เนื่องจากอาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างยา "ยาตีกัน" จนทำใ้หระดับยาคุมกำเนิดในเลือดลดต่ำลง เสี่ยงต่อ การตั้งครรภ์ หรือยาที่ใช้รักษาไม่ได้ผล เสี่ยงต่ออันตรายถึงแก่ชีวิตได้

ขอแนะนำเพิ่มเติม ก่อนเริ่มต้นใช้ยาใด ๆ ต้องศึกษาทำความเข้าใจ หรือสอบถามข้อมูลวิธีการใช้ยาจากเภสัชกรให้ชัดเจน เนื่องจากยาบางชนิด เมื่อใช้อย่างไม่ถูกต้องจะเกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ ไม่ควรรอคำตอบจากทางหน้าเว็บ ซึ่งอาจช้าไม่ทันการ เสี่ยงต่ออันตรายต่อสุขภาพได้

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล

ยาเม็ดคุมกำเนิด (Birth control pill) แพทย์หญิง กีรติ ลีละพงศ์วัฒนา สูตินรีแพทย์