เรียน คุณ Nonoon 54897,

จากที่คุณสอบถามมา ไม่ได้แจ้งรายละเอียดว่าเป็นการติดเชื้อชนิดไหน ที่อวัยวะใด สาเหตุใดที่ต้องรับประทานยาน้ำแทน เนื่องจากสัดส่วนในยาเม็ดและยาน้ำจะไม่เหมือนกันนะครับ และที่แจ้งว่าเป็นโรคทางเดินอาหาร ไม่ได้ระบุข้อมูลเพิ่มเติมนะครับ ขอตอบคร่าว ๆ ดังนี้ครับ

1. ขนาดยาสูตร Augmentin หรือ ชื่อทางเภสัชวิทยาเรียกสั้น ๆว่าเป็น co-amoxiclav ที่แนะนำสำหรับผู้ใหญ่ คือ

• ยาเม็ดขนาด 375 Milligram - มิลลิกรัม (amoxicillin 250 mg + clavulanate 125 mg) ครั้งละ 1 เม็ด วันละ 3 ครั้ง หลังอาหาร หรือ
  
  
• ยาเม็ดขนาด 625 มิลลิกรัม (mg) (amoxicillin 500 mg + clavulanate 125 mg) ครั้งละ 1 เม็ด วันละ 2 ครั้ง หลังอาหาร
  
  
• หรือหากจะรับประทานยาน้ำสูตร 457 mg/5 ml (1 ช้อนชา) (amoxicillin 400 mg + clavulanate 57 mg) คำนวนตามน้ำหนักปริมาณ amoxicillin ที่ควรได้จะตกอยู่ประมาณ 2.5 - 3 ช้อนชา ต่อวัน (แนะนำ ให้เป็น 1.5 ช้อนชา หลังอาหารเช้า - เย็น จะดีกว่านะครับ) แต่ปริมาณ clavulanate จะได้น้อยกว่าที่ควร ส่วนจำนวนกี่ขวดต้องคำนวนตามจำนวนวันที่คุณหมอแนะนำให้รับประทานนะครับ เช่น 5 วัน หรือ 7 วัน หรือ 14 วัน (แล้วแต่อาการของโรคและเชื้อครับ)

ขนาดที่ต้องรับประทานและระยะเวลา สามารถปรับเพิ่มได้ตามความรุนแรงของโรคและอวัยวะที่ติดเชื้อครับ เช่น ถ้าเป็นทางเดินหายใจส่วนล่าง (ปอด หลอดลม) อาจต้องรับประทานนาน 10-14 วัน ครับ

หรือหากที่จังหวัดลำปางมียาเม็ดที่ใช้ละลายน้ำเพื่อรับประทานได้ ลองหาซื้อดูนะครับ ตามร้านขายยาใหญ่ ๆ ชื่อทางการค้า คือ Curam Solutab ขนาดตามที่คุณหมอแนะนำเลยนะครับ ใช้ละลายน้ำเพื่อรับประทานได้เลย แต่รสชาติอาจไม่ดีเท่ายาน้ำเชื่อม แต่ก็ช่วยให้คุณรับประทานยาได้ตามขนาด ไม่ต้องฝืนกลืนเม็ดยาโต ๆ ที่จะช่วยอาการเจ็บคอได้อีกอย่าง คือ การบ้วนปากด้วยน้ำเกลืออุ่น ๆบ่อย ๆนะครับ จะช่วยลดอาการระคายเคือง และลดปริมาณเชื้อบริเวณลำคอได้ครับ

2. ยาตัวนี้เป็นกลุ่ม Penicillin (เพนนิซิลลิน) ครับ ไม่ใช่กลุ่มเดียวกับ ยาฉีด Ranitidine (รานิทิดีน) ซึ่งเป็นยาลดกรดช่วยรักษาแผลในทางเดินอาหาร และ Doxycycline ด็อกซี่ซัยคลิน ซึ่งเป็นยาปฏิชีวนะ หรือยาฆ่าเชื้อ กลุ่ม Tetracycline (เตตร้าซัยคลิน)

ขอเพิ่มเติมรายละเอียดเกี่ยวกับอาการแพ้ยานะครับ หากไม่นานเกินไป ขอให้เภสัชกรประจำโรงพยาบาลที่ไปรักษาจดรายละเอียดเกี่ยวกับการแพ้ หรือออกบัตรเตือนแพ้ยาให้พกติดตัวนะครับ เวลาไปติดต่อพบแพทย์หรือไปร้านยาที่มีเภสัชกร จะได้หลีกเลี่ยงตัวยาที่เคยแพ้ได้ ไม่ทราบว่าอาการแพ้ยาฉีดรานิทิดีน เป็นอย่างไรครับ เพราะยาฉีดตัวนี้มีความเข้มข้นสูง ถ้าเจือจางไม่เหมาะสมก่อนฉีดหรือฉีดเร็วเกินก็จะทำให้เกิดอาการร้อนแดง บริเวณที่ฉีดได้ แบบนี้ไม่ใช่อาการแพ้ยานะครับ ไม่อย่างนั้นคุณอาจเสียโอกาสในการใช้ยาไป

3. ยาทุกตัวมีอันตรายทั้งนั้นนะครับ ทางที่ดีป้องกันไว้ก่อนนะครับ ล้างมือบ่อย ๆ ถ้ามีเด็กไม่สบายก็ให้หยุดเรียน หรือถ้ามาก็ต้องใส่หน้ากากอนามัย ทำตามคำแนะนำของกรมอนามัยนะครับ กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ ท่องให้ขึ้นใจไว้ ฝากให้ช่วยปลูกฝังให้เด็ก ๆกลับไปสอนที่บ้านด้วยนะครับ

ส่วนที่คุณบอกว่าเจ็บคอทุกวัน อาจจะไม่ใช่การติดเชื้อ แต่เป็นการใช้เสียงมากเกินไปหรือเปล่า อาจต้องมีอุปกรณ์ขยายเสียงช่วยนะครับ จะได้ไม่ต้องตะโกนแข่งกับเสียงเด็กๆ ถ้ามีเวลาอาจต้องไปฝึกวิธีใช้เสียงกับนักฝึกการพูด ถ้ามีในโรงพยาบาลในจังหวัดที่คุณอยู่

ทำร่างกายให้แข็งแรง เพื่อเตรียมรับกับเชื้อโรค รับประทานอาหารให้ครบทุกหมวดหมู่ เสริมผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง เช่น ส้ม ฝรั่ง(สุก)

ถ้าไม่มีโรคประจำตัว การว่ายน้ำน่าจะเหมาะกับอาชีพการใช้เสียงมากๆ เพราะจะช่วยบริหารปอดและหลอดลมด้วย

เป็นกำลังใจให้แม่พิมพ์ของชาตินะครับ
เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล