กระดานสุขภาพ
สงสัยเรื่องการหยุดยาคุมค่ะ | |
---|---|
19 มีนาคม 2558 02:47:40 #1 สวัสดีค่ะ คุณหมอ เหตุ : ก่อนหน้านั้นมีเพศสัมพันธ์แต่เหลือยาคุมอีกอาทิตย์นึงไม่ได้มีเพศสัมพันธ์ใดๆ แต่กินจนหมดแผง แล้วรอประจำเดือนมา แล้วประจำเดือนก็มาปกติ แล้วก็หยุดกินยาไป คือตอนนี้ครบกำหนดที่ประจำเดือนจะต้องมา(1เดือน) แต่ประจำเดือนยังไม่มา แล้วระหว่างนั้นก็ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์ใดๆ (กินยาคุมประมาณ10-11เดือน) 1.อยากทราบว่าถ้าหยุดกินยาคุมแล้ว ประจำเดือนจะมาตอนไหนค่ะ? 2.ถ้าจะกลับไปกินยาคุมใหม่ เริ่มกินตอนไหนค่ะ? ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ |
|
อายุ: 20 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 52 กก. ส่วนสูง: 158ซม. ดัชนีมวลกาย : 20.83 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผลเภสัชกร |
21 มีนาคม 2558 03:58:58 #2 เรียน คุณ a3a54, 1. ไม่ทราบสาเหตุใดจึงหยุดรับประทานยาคุมกำเนิด ไม่รับประทานต่อเนื่อง เนื่องจากการรับประทานยาคุมกำเนิดมาระยะหนึ่งแล้วหยุดไปกระทันหัน จะทำให้ระดับฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง ในบางรายอาจทำให้เกิดประจำเดือนเปลี่ยนแปลง (มาช้า หรือ คลาดเคลื่อน หรือปริมาณมากน้อยผิดไปจากเดิม) ส่วนใหญ่ประมาณ 2-3 เดือน ร่างกายจึงจะปรับตัวให้มีการหลั่งฮอร์โมนตามปกติ 2. ส่วนหากต้องการจะกลับไปรับประทานยาคุมกำเนิดเช่นเดิมอีก กรณีที่คุณแจ้งมาใช้ได้กับผู้ที่มีรอบประจำเดือนปกติเท่านั้น เช่น ทุก 28-35 วัน ทั้งนี้ควรทำการตรวจการตั้งครรภ์ให้มั่นใจอีกครั้ง หากประจำเดือนยังไม่มาตามปกติ เพื่อเป็นการยืนยันให้มั่นใจก่อนเริ่มต้นรับประทานยาคุมกำเนิดอีกครั้ง เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล แนะนำบทความดี ๆจากกองบรรณาธิการของเราที่ ยาเม็ดคุมกำเนิด (Birth control pill) แพทย์หญิง กีรติ ลีละพงศ์วัฒนา สูตินรีแพทย์ |
Anonymous |
24 มีนาคม 2558 02:34:10 #3 ขอแจ้ง/ทราบเพิ่มเติมค่ะ ที่หยุดกินเพราะ ไปทำงานคนละที่ค่ะ ไม่ได้อยู่ด้วยกันประมาณ3เดือน เลยหาโอกาสหยุดค่ะ ระหว่างหยุดนี้ก็ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์ค่ะ แล้วพอประจำเดือนมาค่อยกลับไปกินใหม่ตามปกติค่ะ 1.อยากทราบว่ายาคุมกำเนิดสามารถกินติดต่อกันได้นานขนาดไหนค่ะ (ที่หยุดก็เพราะสาเหตุนี้ด้วยกลัวจะเป็นอันตรายค่ะ ถ้ากินติดต่อระยะยาว) 2.ถ้าจะเริ่มกินยาคุมกำเนิดใหม่ เหมือนเริ่มกินแผงแรกใช่ไหมค่ะ รอประจำเดือนมา แล้วกินภายใน5วันที่เป็นประจำเดือน ขอบคุณคุณหมออีกครั้งน่ะค่ะ |
ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผลเภสัชกร |
26 มีนาคม 2558 10:51:53 #4 Dear Khun a3a54, ขอตอบข้อ 2. ก่อนนะครับ หากคุณจะรับประทานยา ควรเริ่มจากวันแรกที่มีประจำเดือน เพื่อให้ตัวยาออกฤทธิ์ยับยั้งไม่ให้มีไข่ตกได้ตั้งแต่ 24 ชั่วโมงแรกที่รับประทานยา หรือช้าที่สุดไม่เกินวันที่ 5 ของประจำเดือน หากช้าเกินกว่านั้นจะเสี่ยงต่อการที่จะมีไข่ตก โอกาสเสี่ยงในการตั้งครรภ์จะเพิ่มขึ้นครับ ส่วนข้อ 1 เท่าที่มีการศึกษาคือ รับประทานยาติดต่อกัน 12 ปี โดยที่ไม่พบว่ามีผลข้างเคียง แต่ในทางการแพทย์มักไม่แนะนำให้รับประทานยาติดต่อกันเกิน 5 ปี หากไม่ต้องการตั้งครรภ์นานกว่านั้น แพทย์มักจะแนะนำให้ทำหมันไปจะดีกว่าครับ นอกจากไม่ต้องรับประทานยาแล้ว ยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายด้วย ถึงแม้จะมีการรับประทานยาติดต่อกันนาน โดยที่ไม่พบผลข้างเคียงอื่น แต่ในแต่ละคน ก็มีปัจจัยเสี่ยงไม่เหมือนกัน ดังนั้น ควรหมั่นสังเกตอาการผิดปกติ เช่น มีเลือดออกผิดปกติจากช่องคลอด หรือมีก้อนที่เต้านม หรือมีปัญหาหลอดเลือดอุดตันที่ขา ฯและควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายเป็นประจำทุกปี เนื่องจากปัจจุบันมีสารแปลกปลอมปนมาทั้งในอาหาร อากาศ หรือน้ำดื่ม ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอาการผิดปกติ สังเกตดูนะครับ ผู้ใหญ่สมัยก่อนจะไม่ค่อยมีใครเป็นมะเร็ง หรือมีก้อนเนื้อแปลก ๆ ล้วนแล้วมาจากอาหารหรือสิ่งที่เราสัมผัสอยู่ทุกวัน ซึ่งอาจไม่สัมพันธ์กับยาที่รับประทานนานๆก็ได้ เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล |
Anonymous |
30 มีนาคม 2558 02:18:15 #5 ขอบคุณคุณหมอมากๆเลยค่ะ ^/\^ |
Anonymous