กระดานสุขภาพ

*** ทานเฉพาะตอนอ่านหนังสือได้มั้ย ?
Anonymous

2 ตุลาคม 2557 05:26:35 #1

รบกวนถามหน่อยนะครับ

 

ยา *** ไม่ทานต่อเนื่องได้มั้ย
แต่ทานเฉพาะช่วงเตรียมสอบ
หรือเฉพาะเวลาที่ต้องการอ่านหนังสือ

 

จะมีผลเสียอะไรมั้ย หรือจะทำให้ดื้อยามั้ยครับ ?

อายุ: 30 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 69 กก. ส่วนสูง: 170ซม. ดัชนีมวลกาย : 23.88 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Haamor Admin

(Admin)

2 ตุลาคม 2557 11:14:32 #2

ถึง คุณ f89cc

เนื่องจากเว็บไซต์เป็นที่สาธารณะ ดังนั้นเพื่อให้ข้อมูลเป็นเรื่องส่วนบุคคลมากที่สุด ทางทีมงานจึงทำการซ่อนชื่อจริงของผู้ถามให้นะคะ โดยคุณ f89cc ยังสามารถติดตามคำตอบคุณหมอได้ที่กระทู้นี้ค่ะ

และหากครั้งต่อไปคุณ f89cc ต้องการปกปิดชื่อตนเอง สามารถเลือก "ไม่แสดงภาพและชื่อของผู้โพส" ทางด้านขวาเวลาตั้งกระทู้คำถามใหม่ค่ะ

นอกจากนี้ เพื่อความเหมาะสมในการใช้สื่อสาธารณะ ทาง Admin ขออนุญาตลบชื่อทางการค้าออกจากหน้าเว็บนะคะ และทาง Admin ได้ส่งเนื้อหาทั้งหมดของคำถามให้ทางคุณหมอเรียบร้อยแล้วนะคะ ดังนั้น คุณ f89cc ยังสามารถติดตามคำตอบของคุณหมอได้เช่นเดิมค่ะ

Anonymous

2 ตุลาคม 2557 17:52:34 #3

โรคสมาธิสั้น น่าอายขนาดนั้นเลยหราา

แต่ก็ขอบคุณที่เป็นห่วงครับ 5555

ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผล

เภสัชกร

3 ตุลาคม 2557 03:20:38 #4

เรียน คุณ f89cc,

ไม่ทราบว่าสอบถามเพื่อวัตถุประสงค์ใดครับ ใครเป็นผุ้ใช้ยา เนื่องจากยานี้มักใช้กับเด็กสมาธิสั้น ถึงประมาณช่วงวัยรุ่นเป็นส่วนใหญ่ เพราะมักควบคุมตนเองได้ดีขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องพึงยาอีก

ขออนุญาตตอบในภาพรวมนะครับ ตัวยาที่คุณสอบถามมานั้น ตัวยาคือ methylphenidate โดยทั่วไปเป็นยาที่กระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง แต่ในเด็กสมาธิสั้น ADHD : Attention Deficit Hyperactivity Disorder ชื่ออาการก็บอกนะครับ ว่ามีความสนใจในเรื่องใด ๆเพียงสั้น ๆ และมักซนหรือมีอาการก้าวร้าว เมื่อไม่ได้ดั่งใจมากกว่าปกติ 

การรักษาโดยทัว่ไปประกอบด้วย 2 ส่วนคือ การปรับพฤติกรรมของเด็ก โดยต้องอาศัยความเข้าใจของพ่อแม่ และครูอาจารย์ อีกส่วนคือการใช้ยา methylphenidate เพื่อปรับสารสื่อประสาทในสมอง ให้อยู่ในระดับสมดุล ตัวยาใช้ได้ค่อนข้างปลอดภัย หากใช้ภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดของจิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น เนื่องจากเด็กกลุ่มนี้ต้องอาศัยความไว้ใจพอสมควร จึงจะสื่อสารกันได้ คุณพ่อ คุณแม่ ต้องมีเวลา ค่อย ๆพูดจา และสั่งสอน ห้ามใช้อารมณ์เด็ดขาด เนื่องจากเด็กจะไม่ใว้ใจ และมักจะมีปฏิกิริยาโต้ตอบอย่างรุนแรง เนื่องจากสมองส่วนที่มีการควบคุมยับยั้งชั่งใจยังมีการเจริญเติบโตไม่เพียงพอ 

โดยทฤษฎีควรรับประทานยาอย่างสม่ำเสมอ โดยรับประทานยาเม็ดออกฤทธิ์เร็ว ในช่วงเช้า และกลางวัน (มักไม่ให้ยาในช่วงบ่าย เนื่องจากมีอาการไม่พึงประสงค์เรื่องการนอนไม่หลับค่อนข้างบ่อย) หากเป็นยาออกฤทธิ์เนิ่น สามารถรับประทานยาได้เพียงวันละ 1 ครั้ง ตอนเช้า ตัวยาจะค่อยๆปลดปล่อยอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน ควรรับประทานยาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มีการพัฒนาการทางสมองอย่างสม่ำเสมอ แต่ในแนวทางปฏิบัติ อาจพบแพทย์ให้รับประทานยาแบบเว้นช่วงปิดเทอม (Drug Holiday) เพื่อให้เด็กไม่รู้สึกกดดันในการต้องรับประทานยาทุกวัน และยังช่วยลดค่าใช้จ่ายของผู้ปกคองได้ รวมถึงลดปัญหาการขาดแคลนของยาในบางช่วงได้ด้วย (ตัวยาต้องมีการนำเข้าจากต่างประเทศ บ้านเราไม่สามารถผลิตเองได้) ประกอบกับผู้ปกครองบางรายอาจกลัวลูกติดยา จึงไม่ต้องการให้รับประทานยาอย่างต่อเนื่องทุกวัน แต่พบว่าหากใช้ในขนาดที่ถูกต้อง ตัวยาจะถูกกำจัดออกทางปัสสาวะได้ ไม่มีการสะสมจนเกิดอันตรายได้
หากต้องการข้อมูลยาเพิ่มเติม แนะนำให้สอบถามจากแพทย์ผู้ทำการรักษาจะได้ข้อมูลครบถ้วนมากกว่านะครับ เนื่องจากอาจต้องประกอบกับอาการแสดงออกอื่น ๆร่วมด้วย เช่นมีอาการวิตกกังวล ซึมเศร้า หรืออาละวาดในระหว่างวันหรือไม่ ภาวะตับหรือไตเป็นอย่างใด รับประทานยาแล้วมีอาการไม่พึงประสงค์อืนใดหรือไม่ เช่น นอนหลับยาก หรือง่วงซึม ท้องผูกหรือท้องเสีย ปัสสาวะลำบาก เป็นต้น

 

เป็นกำลังใจให้นะครับ

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล

แนะนำบทความดี ๆจากกองบรรณาธิการของเราที่

โรคสมาธิสั้น (Attention Deficit Hyperactivity disorder: ADHD)

โดย นพ.ทรงภูมิ เบญญากร จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น

Anonymous

3 ตุลาคม 2557 17:36:14 #5

ผมเป็นผู้ใช้ยาครับ ยานี้ถูกจ่ายโดยแพทย์

คุณหมอนัด 6 เดือนครั้ง เพราะอาการผมไม่รุนแรงนัก

 

แต่ตอนนี้กำลังเตรียมสอบ Toeic

เลยอยากทานเฉพาะตอนอ่านหนังสือ

เพราะถ้าทานสม่ำเสมอกลัวผมกระทบแบบที่เคยอ่านเจอ

ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผล

เภสัชกร

5 ตุลาคม 2557 18:20:11 #6

เรียน คุณ f89cc,

โดยทั่วไปมักไม่ค่อยพบอาการนี้ในผู้ใหญ่นะครับ ดังนั้นแนะนำให้รับประทานสม่ำเสมอ จะช่วยควบคุมอาการ และช่วยเรื่องพัฒนาการของระบบประสาทและสมองอย่างต่อเนื่องด้วยครับ

ส่วนเรื่องอาการไม่พึงประสงค์ ถ้าแพทย์เป็นผู้ปรับขนาดยา จะค่อยๆปรับจนสามารถใช้รักษา โดยที่เกิดอาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยาน้อยที่สุดครับ แต่ต้องไม่ซื้อยาหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใด ๆมาใช้ร่วมกัน "ก่อน"ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร เนื่องจากอาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างยา "ยาตีกัน" จนไม่เกิดผลในการรักษา หรือเกิดอันตรายถึงแก่ขีวิตได้ และควรรับประทานยาด้วยน้ำเปล่าสะอาดเท่านั้น เนื่องจากเครื่องดื่มอื่น ๆอาจทำให้ตัวยาตกตะกอน หรือเสริมฤทธิ์กับตัวยา จนเกิดอาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยาได้ เช่น ชา กาแฟ ชาเขียว นม น้ำเต้าหู้ โกโก้ หรือน้ำผลไม้บางชนิด เช่น น้ำส้ม น้ำเกรปฟรุต น้ำแครนเบอร์รี เป็นต้น

 

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล