ขออนุญาตถามเพิ่มเติมนะคะ

มียาในรูปแบบทาที่ช่วยลดอาการแสบร้อนดังกล่าวได้บ้างไหมคะ

เรียน คุณ 8a417

ตัวยาที่คุณสอบถามมานั้นเป็นสารสกัดที่ได้มาจากพริก มีข้องบ่งใช้ในการบรรเทาอาการปวดข้อ เนื่องจากข้ออักเสบ (Osteoarthritis and Rheumatoid arthritis) รวมถึงอาการปวดเรื้อรัง เช่น อาการปวดหลังจากงูสวัด (post herpetic neuralgia) อาการปวดหลังจากการผ่าตัดอวัยวะออก เช่น มะเร็งเต้านม ฯ อาการปวดปลายประสาทในผู้ป่วยเบาหวาน กลไกการออกฤทธิ์ คือ ให้เซลล์ประสาท ปลดปล่อยสารสื่อประสาทความปวดออกจนหมด ทำให้บริเวณที่ทายานั้นลดอาการปวดไปได้

ทั้งนี้ต้อง "ทา" บริเวณที่มีอาการ ติดต่อกันอย่างน้อย 4 สัปดาห์ เพื่อให้สารสื่อประสาทอาการปวดลดน้อยลงมากจนเกือบหมด ร่างกายไม่สามารถสร้างทดแทนได้ทัน

• ใช้วิธีการ "ทา" เท่านั้น โดยให้ทาบางๆ วันละ 3-4 ครั้ง เพื่อให้ค่อยๆปลดปล่อยสารสื่อประสาทความปวด
• ห้ามถูหรือนวด จะยิ่งทำให้มีอาการแสบร้อนมากขึ้น
• ไม่ควรอาบน้ำอุ่นจัดหรือร้อนจัด เนื่องจากจะทำให้อาการแดงร้อนเพิ่มมากขึ้น
• ห้ามทาบริเวณเนื้อเยื่ออ่อน เนื่องจากอาจเกิดอาการระคายเคืองรุนแรง หรือเนื้อเยื่อไหม้ได้
• หลังทายาแล้วให้รีบล้างมือให้สะอาดทันที เพื่อป้องกันการสัมผัสเนื้อเยื่อบริเวณใบหน้า หรือนัยน์ตา

เป็นกำลังใจให้นะครับ

เภสัชกร ประดิษฐ์ งามศิริผล

อ้างอิงจาก https://www.gpo.or.th/rdi/html/chada1.html