กระดานสุขภาพ
สอบถามเรื่องทายาคุมกำเนิดทานคู่กับยา Amoxycillin 500 mg และ ยาคุมทานคู่กับยาลดน้ำหนักได้มั้ยคะ | |
---|---|
23 กันยายน 2557 02:39:39 #1 สวัสดีคะคุณหมอ ขอคำปรึกษาเรื่องยาคุม กำเนิดคะ หนูทาน ไดแอน 35 คะ มี2เรื่องที่อยากถามคุณหมอคะ หนูทานยาคุมไดแอนมา3ปีแล้วคะ 1 พอดีหนูไม่สบายคะต้องทานยาแก้อักเสบ Amoxycillin 500 mg. กินไป2วันเต็มๆ เช้า กลางวัน เย็น อยากถามคุณหมอว่าสามารถทานคู่กับยาคุมได้มั้ย ที่หนูกินจะทำไห้ประสิทธิภาพของยาคุมลดลงมั้ยคะ แล้วจะเสี่ยงในกาีตั้งครรมั้ยคะ 2 ยาคุมสามารถทานคู่กับยาลดน้ำหนักได้มั้ยคะ คุณหมอช่วยตอบไห้หน่อยนะคะ ขอบคุณคะ |
|
อายุ: 22 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 55 กก. ส่วนสูง: 164ซม. ดัชนีมวลกาย : 20.45 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
Jitr*****3 |
23 กันยายน 2557 03:21:31 #2 ขอโทษคะที่เขียนชื่อยา ขอโทษนะคะ |
Haamor Admin(Admin) |
24 กันยายน 2557 03:14:13 #3 ถึง คุณ 87485 เนื่องจากเว็บไซต์เป็นที่สาธารณะ ดังนั้นเพื่อให้ข้อมูลเป็นเรื่องส่วนบุคคลมากที่สุด ทางทีมงานจึงทำการซ่อนชื่อจริงของผู้ถามให้นะคะ โดยคุณ 87485 ยังสามารถติดตามคำตอบคุณหมอได้ที่กระทู้นี้ค่ะ และหากครั้งต่อไปคุณ 87485 ต้องการปกปิดชื่อตนเอง สามารถเลือก "ไม่แสดงภาพและชื่อของผู้โพส" ทางด้านขวาเวลาตั้งกระทู้คำถามใหม่ค่ะ ส่วนเรื่องชื่อยานั้น คุณ 87485 ไม่ได้ใส่เป็นชื่อยี่ห้อมา แต่เป็นชื่อประเภทของยาค่ะ ดังนั้นไม่ต้องกังวลนะคะ |
ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผลเภสัชกร |
25 กันยายน 2557 04:28:52 #4 เรียน คุณ 87485, ขออนุญาตแยกตอบเป็น 2 ข้อนะครับ 1. ยาปฏิชีวนะกลุ่มที่ออกฤทธิ์กว้าง เช่น Penicillin จะทำลายเชื้อแบคทีเรียที่หมุนเวียนฮอร์โมนยากลับเข้าสู่ลำไส้ ทำให้ลดระดับยาลงจนทำให้เสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ได้ ดังนั้นช่วงที่กำลังรับประทานยาอยู่และภายหลังจากที่ยาหมด 5-7 วัน หากจำเป็นต้องมีเพศสัมพันธ์ ควรใช้วิธีการสวมถุงยางอนามัยร่วมด้วย เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการคุมกำเนิด หรือหากหลีกเลี่ยงได้ ควรงดมีเพศสัมพันธ์ในช่วงที่ไม่สบาย เนื่องจากอาจเกิดการติดเชื้อระบบทางเดินหายใจได้ เนื่องจากเชื้อไวรัสและแบคทีเรียจะติดจากการสัมผัสหรือการใช้สิ่งของร่วมกันหรือมีการสัมผัสน้ำมูก น้ำลาย 2. คงตอบยากนะครับ เนื่องจากมีหลายผลิตภัณฑ์ที่โฆษณาว่าช่วยลดน้ำหนัก ทั้งชนิดที่เป็นยาระบาย เป็นสารพองน้ำที่ทำให้อยู่ท้อง หรืออาจเป็นผลิตภัณฑ์ลักลอบจำหน่าย ที่มีการผสมสารเคมีอันตรายที่ทำให้ลดความอยากอาหาร แต่มีอันตรายที่ทำให้ลิ้นหัวใจรั่ว (sibutramine, fenfluramine) หรืออาจผสมยาขยายหลอดลม ยากระตุ้นธัยรอยด์ที่ลักลอบนำไปใช้เป็นสารกระตุ้นเนื้อแดงในหมู ซึ่งบางชนิดก็ยิ่งเสริมฤทธิ์ให้เกิดอันตรายจากยาคุมกำเนิดเพิ่มขึ้น เช่น มีลิ่มเลือดอุดตันที่หัวใจหรือที่ขา ไมเกรนรุนแรง หรือต้านฤทธิ์กับฮอร์โมนในยาคุมกำเนิดจึงไม่ควรใช้ร่วมกัน ยาคุมกำเนิด ส่วนประกอบคือฮอร์โมนเอสโตรเจน (ตัวอย่างสารเคมีมักมีชื่อ estradiol) และ โปรเจสโตรเจน (cyproterone, drospirenone, norgestrel, norgestimate เป็นต้น) estrogen มีคุณสมบัติทำให้ผิวพรรณ นุ่มนวล ช่วยเก็บกักน้ำให้อยู่ที่ผิว ส่วน progestogen จะทำให้มีการสร้างเยื่อบุโพรงมดลูก ยับยั้งไม่ให้เยื่อบุโพรงมดลูกหลุดลอกก่อนกำหนด มีการสะสมโปรตีนและกล้ามเนื้อ ดังนั้น การที่จะควบคุมน้ำหนักให้ยั่งยืน และไม่ต้องสิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย คือ 1. การคุมอาหาร โดยรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ มีสารอาหารครบถ้วน หนัก-(มื้อ)เช้า เบา-เที่ยง เลี่ยง-เย็น เว้น-ดึก
2. การออกกำลังกาย จะช่วยเรื่องการเผาผลาญไขมัน ทำให้ไขมันกลับมาได้ยาก เนื่องจากมีกล้ามเนื้อทดแทน น้ำหนักอาจไม่ลงมาก แต่จะทำให้กล้ามเนื้อกระชับแน่น ดูเฟิร์มกว่าเดิม เนื้อไม่เหี่ยวย่น ไม่ย้วย โดยควรเป็นการออกกำลังกายแบบใช้ออกซิเจน เช่น แอโรบิค จ็อกกิ้ง ว่ายน้ำ สลับกันไป จะได้พัฒนากล้ามเนื้อหลาย ๆจุด อย่างน้อยวันละ 30 นาที 5 วันต่อสัปดาห์ การออกกำลังกายนอกจากช่วยคุมน้ำหนัก แล้วยังช่วยให้มีสุขภาพแข็งแรง กำจัดของเสียออกทางเหงื่ออีกด้วย 3. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 6-8 ชั่วโมง และไม่ควรเข้านอนหลัง 23.00 น. เนื่องจากยิ่งนอนดึก จะทำให้ร่างกายเกิดความเครียด ต่อมหมวกไตมีการหลั่งสารสเตียรอยด์ที่ทำให้ร่างกายเกิดการบวมน้ำ เบาหวาน ไขมันสูง กระดูกพรุน รวมถึงทำให้เซลล์สมองทำงานไม่ประสานกัน รู้สึกตื้อ ๆ ไม่สดชื่น นอกจากนั้นยังทำให้ Growth Hormone ลดปริมาณลง ซึ่งฮอร์โมนนี้ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ลดการเสื่อมของเซลล์ ชะลอการแก่ก่อนวัยด้วย
สุขภาพดีไม่มีขาย อยากได้ต้องสร้างเองครับ เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล |
Anonymous |
25 กันยายน 2557 04:59:45 #5 แล้วถ้ากินยาคุมกับยาลดน้ำหนักคนละเวลาจะทานได้มั้ยคะ มีผลมั้ย เช่นทานยาลดน้ำหนักติน1ทุ่มทานยาคุมตอน4ทุ่ม |
ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผลเภสัชกร |
26 กันยายน 2557 01:01:38 #6 เรียน คุณ87485 ไม่แนะนำนะครับ ผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนักมีหลายรูปแบบ ทั้งชนิดที่เพิ่มกากใย อาจดูดซึมตัวยาคุมกำเนิด หรือคุณสมบัติช่วยขับถ่าย ขับตัวยาออกทางอุจจาระ หรือเป็นสารเร่งการเผาผลาญ ตัวยาก็จะถูกกำจัดออกไปเร็วขึ้น และควรรับประทานยาด้วยน้ำเปล่าสะอาดเท่านั้น เครื่องดื่มอื่นอาจทำให้การละลายของตัวยาลดลง ตกตะกอนจนไม่ดูดซึม เช่น ชา ชาขียว กาแฟ นม น้ำเต้าหู้ น้ำอัดลม รวมถึงน้ำผลไม้ เนื่องจากพบว่าน้ำผลไม้หลายชนิด ใส่วนลดการดูดซึมตัวยาผ่านผนังลำไส้ และเร่งการเผาผลาญยาที่ตับ และเร่งการขับออกทางไต ตัวอย่างเช่น เกรปฟรุต แครนเบอร์รี ส้ม แอปเปิ้ลฯ หากต้องการวิตามิน รับประทานผักสด ผลไม้จะดีกว่าครับ เนื่องจากไม่มีน้ำตาลเสริใ และยังได่นับกากใย ช่วยให้อยู่ท้อง ไม่โหยระหว่างวัน และช่วยเรื่องการขับถ่าย ผิพรรณสดใส ลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งทางเดินอาหารด้วยครับ
เภสัชกร ประดิษฐ์ งามศิริผล |
Anonymous |
26 กันยายน 2557 02:27:08 #7 ขอบคุณนะคะที่ตอบคำถามหนู คือถ้าหนูกินยาลดน้ำหนักไปแล้ว4วันละคะ มันจะมีการเสี่ยงการตั้งครรภ์มั้ย แล้วควรป้องกันยังไงไม่ไห้เกิดการตั้งครรภ์คะ ในเมื่อหนูกินมาแล้วอะคะ กลัวมากคะ |
ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผลเภสัชกร |
28 กันยายน 2557 07:10:30 #8 เรียน คุณ 87485 ณ ตอนนี้คงแก้ไขอะไรไม่ได้ครับ เนื่องจากอาจไม่ตรงกับช่วงที่มีไข่ตก หรืออสุจิอาจเดินทางไปไม่ถึงไข่ ให้สังเกตเมื่อยาคุมกำเนิดหมดแผงแล้ว ประจำเดือนมาตามปกติหรือไม่ (อาจมามากหรือน้อยกว่าปกติ) หากเลยกำหนดแล้ว 7 วัน แนะนำให้ตรวจด้วยชุดตรวจการตั้งครรภ์ เพื่อยืนยันผลการตั้้งครรภ์ ก่อนเริ่มต้นรับประทานยาแผงใหม่ครับ แนะนำอีกครั้งครับ ไม่ควรซื้อยาหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใด ๆ มาใช้ร่วมกับยาคุมกำเนิด "ก่อน" ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร เนื่องจากอาจเกิดอันตรายต่อตัวคุณหรือทารกในครรภ์ (หากมีการตั้งครรภ์) จนเสี่ยงต่อชีวิตได้
เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล |
Anonymous