กระดานสุขภาพ

สอบถามเรื่องยาเม็ดคุมกำเนิด
New.*****s

22 กันยายน 2557 14:44:41 #1

ดิฉันเคยศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดมาตอนหนึ่งว่า " การใช้ยาปฏิชีวินะและยารักษาโรคบางชนิดจะทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานของยาคุมเม็ดกำเนิดลดลง " และเนื่องจากช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยทำให้ดิฉันไม่สบายนิดหน่อย ดิฉันจึงแก้ปัญหาด้วยการทานยาสามัญประจำบ้านทั่วไป เช่น ยาแก้แพ้ แก้หวัด แก้ปวด แต่ก็ใช้บ้างบางครั้งบางคราวเท่านั้น ทำให้ดิฉันเกิดข้อสงสัยอยากถามคุณหมอว่า " ยาสามัญประจำบ้านยี่ห้อทั่วไป แก้หวัด แก้ปวด เช่น *** *** *** *** หรือยาแก้ไอ ยาประเภทนี้มีผลกระทบอะไรต่อการทำงานของยาคุมกำเนิดบ้างหรือไม่คะ " รบกวนคุณหมอช่วยตอบคำถามด้วยนะคะ ปล.ตอนนี้ดิฉันทานยาคุมกำเนิดมาประมาณ 7 เดือนแล้ว เป็นแบบ 28 เม็ด ยี่ห้อ *** กล่องละ 30.- ซื้อตามร้านขายยาทั่วไปค่ะ

อายุ: 16 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 50 กก. ส่วนสูง: 155ซม. ดัชนีมวลกาย : 20.81 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Haamor Admin

(Admin)

24 กันยายน 2557 02:22:02 #2

ถึง คุณ New.Jellies

เพื่อความเหมาะสมในการใช้สื่อสาธารณะ ทาง Admin ขออนุญาตลบชื่อทางการค้าออกจากหน้าเว็บนะคะ และทาง Admin ได้ส่งเนื้อหาทั้งหมดของคำถามให้ทางคุณหมอเรียบร้อยแล้วนะคะ ดังนั้น คุณ New.Jellies ยังสามารถติดตามคำตอบของคุณหมอได้เช่นเดิมค่ะ

ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผล

เภสัชกร

25 กันยายน 2557 04:26:27 #3

เรียน คุณ New.Jellies,

คำถามนี้ตอบค่อนข้างยากครับ แต่จากข้อมูลยาคุมกำเนิด ไม่พบปฏิกิริยาระหว่างยากับยา พาราเซตามอล ยาบรรเทาอาการแพ้ chlorpheniramine, fexofenadine, cetirizine ส่วนยาอื่นต้องประเมินเป็นครั้ง ๆไปครับ เนื่องจากมีรายละเอียดตัวยาแตกต่างกันไป

โดยหลักการเมื่อเกิดอาการเจ็บป่วย ควรเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ในช่วงนั้น เพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อน และลดการแพร่กระจายของเชื้อด้วยครับ หรือหากเลี่ยงไม่ได้ ควรใช้วิธีการสวมถุงยางอนามัยร่วมด้วย เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการคุมกำเนิด ห้ามใช้ยาประเภทที่มีส่วนประกอบของฮอร์โมนร่วมด้วย เช่น ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน เนื่องจากจะทำให้เสี่ยงต่อการเกิดการตั้งครรภ์นอกมดลูก หรือสับสนว่าประจำเดือนไม่มาจากการตั้งครรภ์หรือเกิดจากฮอร์โมนอื่นครับ

จากข้อมูลส่วนบุคคล เนื่องจากคุณอายุยังน้อย หากเลี่ยงการรับประทานยาคุมกำเนิดจะดีกว่านะครับ เพื่อลดการได้รับฮอร์โมนเพศติดต่อกันเป็นเวลานาน (ยกเว้นว่าเป็นการรักษาโรคทางระบบสืบพันธุ์) จากข้อมูลการศึกษามักไม่แนะนำให้รับประทานยาคุมกำเนิดติดต่อกันเกิน 10 ปี เพราะไม่มีข้อมูลความปลอดภัยในการใช้ยา หากเลี่ยงไม่ได้แนะนำให้ใช้วิธีการสวมถุงยางอนามัยจะปลอดภัยต่อคุณและฝ่ายชายมากกว่า เพราะนอกจากช่วยคุมกำเนิดแล้ว ยังชวยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น หนองใน ซิฟิลิส แผลริมอ่อน พยาธิในช่องคลอด ไวรัสตับอักเสบบี หรือ ซี หรือเลวร้ายสุดคือไวรัส เอชไอวี (HIV - AIDS) ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีทางรักษา

นอกจากนี้การสวมถุงยางอนามัยยังช่วยป้องกันติดเชื้อไวรัส เอชพีวี (HPV: human Papilloma Virus) ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดมะเร็งปากมดลูก และหูดหงอนไก่ หรือมะเร็งองคชาติในเพศชาย อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้อยากให้เน้นเรื่องการศึกษาไว้ก่อนนะครับ เรื่องการมีเพศสัมพันธ์ในอนาคตยังมีทางเลือกได้อีกมากครับ

 

ลูก หรือ โรค คุณเลือกได้ครับ

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล

แนะนำบทความดี ๆจากกองบรรณาธิการของเราที่

http://haamor.com/th/การคุมกำเนิด/