กระดานสุขภาพ
เครียดมากๆเลยครับ ช่วยด้วยครับ | |
---|---|
9 กันยายน 2557 13:37:50 #1 คุณหมอรบกวนหน่อยครับ
คือผม มี เพศสัมพันธ์ กับ แฟน แล้วหลั่งนอกแล้วก็ไปล้างอวัยวะ แล้วกลับมามีอะไรกันต่อ ตอนนั้นช่วงเวลา 4ทุ่มของวันเสาร์ที่6ครับ แล้วตอน 8 โมงเช้า มีอะไรกันอีกรอบนึง หลั่งนอก แล้วตอน 10.30ก็ซื้อยาคุมฉุกเฉิน(***)ให้แฟนกิน แฟนกินยาคุมทีเดียวพร้อมกัน2เม็ด ไม่ทราบว่าจะมีประสิทธิสูงพอไหม? แล้วมีโอกาสตั้งครรภ์กี่%ครับ ผมยังไม่อยากให้แฟนท้องครับ ขอบคุณมากๆครับ |
|
อายุ: 26 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 48 กก. ส่วนสูง: 159ซม. ดัชนีมวลกาย : 18.99 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
Haamor Admin(Admin) |
9 กันยายน 2557 16:41:54 #2 ถึง คุณ mixky เพื่อความเหมาะสมในการใช้สื่อสาธารณะ ทาง Admin ขออนุญาตลบชื่อทางการค้าออกจากหน้าเว็บนะคะ และทาง Admin ได้ส่งเนื้อหาทั้งหมดของคำถามให้ทางคุณหมอเรียบร้อยแล้วนะคะ ดังนั้น คุณ mixky ยังสามารถติดตามคำตอบของคุณหมอได้เช่นเดิมค่ะ |
Mixk*****y |
10 กันยายน 2557 04:59:47 #3 รบกวนด้วยครับ ขอบคุณครับ
ยังรอคำตอบอยู่นะครับ |
ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผลเภสัชกร |
11 กันยายน 2557 05:46:04 #4 เรียน คุณ mixky, การรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน จะมีอัตราเสี่ยงในการตั้งครรภ์ประมาณ 8-10 เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้ขึ้นกับจำนวนครั้งการมีเพศสัมพันธ์ อยู่ในช่วงไหนของการมีไข่ตก แต่วิธีการรับประทานยาที่ถูกต้องมีได้ 2 วิธีครับ คือ ต้องรับประทานยาภายใน 72 ชั่วโมงของการมีเพศสัมพันธ์ หากรับประทานยาไปครบแล้ว มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกันอีก ก็อาจต้องรับประทานยาเพิ่มอีกครับ - รับประทานยา เม็ดแรกทันที หลังจากนั้น 12 ชั่วโมง รับประทานยาอีก 1 เม็ด วิธีนี้ดีตรงที่จะไม่ค่อยมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน แต่อาจทำให้ลืมรับประทานยาได้ - รับประทานยาพร้อมกันสองเม็ดทันที วิธีนี้ดีตรงที่ไม่ต้องกังวลเรื่องการลืมรับประทานยา แต่อาจทำให้มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดมวนแน่นท้องมากกว่าวิธีแรก หากคุณยังไม่ได้แต่งงาน แนะนำให้ใช้การรับประทานยาคุมกำเนิดปกติ หรือหากไม่ได้อยู่ด้วยกัน นาน ๆมีเพศสัมพันธ์ แนะนำให้ใช้วิธีการสวมถุงยางอนามัยจะดีกว่าครับ เพื่อคุมกำเนิดแล้วยังช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อีกด้วย เช่น หนองใน ซิฟิลิส แผลริมอ่อน พยาธิในช่องคลอด ไวรัสตับอักเสบ บีหรือซี หรือแย่สุดคือเอดส์ นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันการติดเชื้อไวรัส เอชพีวี ที่เป็นสาเหตุกระตุ้นให้เกิดมะเร็งปากมดลูกในฝ่ายหญิง และมะเร็งองคชาติในเพศชายได้อีกด้วย การรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน ทางการแพทย์จะใช้ต่อเมื่อมีความจำเป็นเท่านั้น ได้แ่ก เมื่อถูกข่มขืน หรือถุงยางอนามัยฉีกขาด รั่วซึม เนื่องจากมีปริมาณฮอร์โมนสูงมาก 1500 ไมโครกรัม เมื่อเทียบกับขนาดปกติในยาคุมกำเนิด 50-75 ไมโครกรัม จากข้อมูลบริษัทยาแจ้งว่า ไม่ควรรับประทานยาเกิน 2 กล่องต่อเดือน เนื่องจากเสี่ยงต่อการเกิดการตั้งครรภ์นอกมดลูก เสี่ยงต่อการตกเลือดภายในช่องท้อง จนอาจเสียชีวิตได้ แต่จากข้อมูลการศึกษาพบว่า สตรีที่ได้รับยาคุมกำเนิดฉุกเฉินมากกว่า 3 ครั้ง ตลอดชีวิต จะมีอัตราเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งสูงหลายเท่ามากกว่าสตรีที่ไม่เคยได้รับยาคุมกำเนิดฉุกเฉินมาก่อน เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งมดลูกหรือรังไข่ หรือมะเร็งตับ เป็นต้น
เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล แนะนำบทความดี ๆจากกองบรรณาธิการของเราที่ การคุมกำเนิด (Contraception) โดย แพทย์หญิง กีรติ ลีละพงศ์วัฒนา สูตินรีแพทย์ |
Mixk*****y |
11 กันยายน 2557 15:24:29 #5 คุณหมออย่างกรณีผมมีโอกาส 8-10% ใช่ไหมครับ ขอบคุณสำหรับคำแนะนำมากๆนะครับคุณหมอ |
ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผลเภสัชกร |
12 กันยายน 2557 16:16:53 #6 เรียน คุณ Mixky, หากรับประทานยาอย่างถูกต้อง และไม่มีการคลื่นไส้ อาเจียน ยาจะมีประสิทธิภาพตามที่ได้มีการทดลองใช้ทางการแพทย์ดังที่ได้แจ้งไว้ครับ
เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล |
Mixk*****y