ถึง คุณ CKRT

เพื่อความเหมาะสมในการใช้สื่อสาธารณะ ทาง Admin ขออนุญาตลบชื่อทางการค้าออกจากหน้าเว็บนะคะ และทาง Admin ได้ส่งเนื้อหาทั้งหมดของคำถามให้ทางคุณหมอเรียบร้อยแล้วนะคะ ดังนั้น คุณ CKRT ยังสามารถติดตามคำตอบของคุณหมอได้เช่นเดิมค่ะ

เรียน คุณ CKRT,

แนะนำให้พบแพทย์ เพื่อทำการตรวจเลือดเจาะหาฮอร์โมนการตั้งครรภ์ รวมถึงตรวจร่างกาย เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงก่อนเริ่มรับประทานยาคุมกำเนิด โดยเมื่อตรวจแล้วว่าไม่มีการตั้งครรภ์แน่นอน แพทย์จะสั่งจ่ายฮอร์โมนรับประทานเพื่อปรับประจำเดือน เมื่อประจำเดือนมาแล้ว จึงจะเริ่มต้นรับประทานยาคุมกำเนิด

ส่วนการเลือกยาคุมกำเนิด ต้องแล้วแต่ลักษณะรูปร่าง และรูปแบบการมีประจำเดือน ว่าเหมาะสมกับฮอร์โมนประเภทใด เช่น

- มีปริมาณฮอร์โมนเอสโตรเจนมาก รูปร่างสัดส่วนโค้งเว้า ชัดเจน หน้าอกค่อนข้างใหญ่ ผิวค่อนข้างแห้ง ไม่ค่อยมีขน ประจำเดือนมาปริมาณมาก หรือนาน 5-7 วัน แบบนี้เหมาะกับยาคุมกำเนิดที่มีปริมาณฮอร์โมนโปรเจสตินสูง เพื่อปรับฮอร์โมนเพศในร่างกายให้สมดุล

- มีปริมาณฮอร์โมนโปรเจสตินในร่างกายเด่นชัด รูปร่าง สัดส่วนอกเอว มักไม่ค่อยชัดเจน ผิวค่อนข้างมัน ขนค่อนข้างมาก ประจำเดือนมาปริมาณน้อย หรือน้อยวัน หรือรอบเดือนนานกว่า 28 วัน แบบนี้เหมาะกับยาคุมกำเนิดที่มีปริมาณเอสโตรเจนสูง เพื่อปรับฮอร์โมนเพศให้สมดุล

แต่ทั้งนี้ ต้องขึ้นกับปัจจัยอื่น ๆด้วย ว่ามีข้อห้ามใช้ยาคุมกำเนิดหรือไม่ เช่น มีก้อนที่เต้านม มีโรคเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือด มีถุงน้ำที่รังไข่ มีก้อนเนื้อที่มดลูก ปวดไมเกรนชนิดที่ไม่สามารถควบคุมได้ด้วยยา มีภาวะการทำงานของตับหรือไตบกพร่องรุนแรง ถ้าเป็นแบบนี้ ก็อาจต้องปรับไปใช้วิธีการคุมกำเนิดอื่น ๆที่ไม่มีฮอร์โมนแทน

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล

แนะนำบทความดี ๆจากกองบรรณาธิการของเราที่

การคุมกำเนิด (Contraception) โดย แพทย์หญิง กีรติ ลีละพงศ์วัฒนา สูตินรีแพทย์