กระดานสุขภาพ
ทานยาคุมไม่หมดแผง | |
---|---|
27 สิงหาคม 2557 14:57:12 #1 1.ทานยาคุม *** มาได้6แผงแล้ว เริ่มทานแผงที่7 เม็ดแรกวันที่ 20 สิงหาคม ทานไปได้3วัน หยุดทานยาวันที่ 22 สิงหาคม เนื่องจากว่า มีอาการคลื่นไส้ตลอดทุกวันหลังจากทานยา จนถึงเช้าตื่นมาก็ไม่หาย ทั้งๆที่ทานมาหลายเดือนแล้ว ทานยี่ห้อนี้มาตลอดไม่เคยเปลี่ยน เป็นเพราะอะไรคะ ควรเปลี่ยนยี่ห้อหรือเปล่า?? 2.สาเหตุดังกล่าว ทำให้หนูหยุดทานยาคุมกระทันหัน หลังจากหยุดทานไปได้ 3 วัน ก็มีเลือดออกมาคล้ายประจำเดือน มันคือเลือดอะไรคะ?? เป็นเลือดของผลจากการทานยาไม่หมดแผง หรือว่าเลือดประจำเดือน เพราะประจำเดือนหนูพึ่งหมดไป วันที่ 19 สิงหาคมที่ผ่านมานี้เอง แต่เลือดเหมือนประจำเดือนมากค่ะ ไม่ได้มาแบบกระปริดกระปรอย แต่น้อยกว่าเลือดตอนมีประจำเดือน แล้วถ้าจะทานยาคุมแผงใหม่จะเริ่มทานได้เมื่อไหร่คะ? 3. การทานยาคุมติดต่อกันเป็นเวลานานหลายแผง จะมีผลข้างเคียงอะไรไหม หรือเกิดอะไรไม่ดีต่อร่างกายในอนาคตไหมคะ?? เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก 4.การหยุดทานยาคุมกระทันหันแบบนี้จะทำให้เกิดผลข้างเคียงอะไรไหมคะ ?? 5.ถ้าจะมีเพศสัมพันธ์ต่อ จำเป็นต้องทานยาคุมหรือเปล่าคะ ถ้าเกิดใส่ถุงยางอนามัยป้องกันเพียงอย่างเดียว จะช่วยให้ไม่เกิดการตั้งครรภ์ได้ไหมคะ ?? เพราะหนูไม่อยากทานยาคุมอีกแล้ว |
|
อายุ: 19 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 43 กก. ส่วนสูง: 168ซม. ดัชนีมวลกาย : 15.24 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
Haamor Admin(Admin) |
29 สิงหาคม 2557 01:01:41 #2 ถึง คุณ mickeymouse เพื่อความเหมาะสมในการใช้สื่อสาธารณะ ทาง Admin ขออนุญาตลบชื่อทางการค้าออกจากหน้าเว็บนะคะ และทาง Admin ได้ส่งเนื้อหาทั้งหมดของคำถามให้ทางคุณหมอเรียบร้อยแล้วนะคะ ดังนั้น คุณ mickeymouse ยังสามารถติดตามคำตอบของคุณหมอได้เช่นเดิมค่ะ |
ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผลเภสัชกร |
31 สิงหาคม 2557 16:09:00 #3 เรียน คุณ mickeymouse, ขออนุญาตตอบเป็นข้อ ๆครับ 1. เป็นไปได้ครับ เนื่องจากคุณยังอยู่ในช่วงเป็นหนุ่มเป็นสาว ฮอร์โมนเพศในร่างกายยังคงไม่คงที่ ดังนั้นช่วงนี้อาจส่งผลต่อความเหมาะสมของยาได้ ส่วนใหญ่ แนะนำให้รับประทานยาก่อนเข้านอน เพื่อลดการลืมรับประทานยา และป้องกันอาการคลื่นไส้อาเจียน หากยังคงมีอาการแนะนำให้รับประทานยาคุมหลังอาหารทันที เพื่อให้ตัวยาค่อย ๆถูกดูดซึม ช่วยลดอาการคลื่นไส้อาเจียนได้ แต่หากยังคงมีอาการ แนะนำให้พบแพทย์เพื่อปรับเปลี่ยนยาคุมให้เหมาะสมกับแต่ละร่างกายต่อไป 2. การหยุดรับประทานยาคุมกำเนิดกระทันหัน จะทำให้เยื่อบุผนังมดลูกบางลงและฉีกขาดง่ายขึ้น จึงเกิดเป็นเลือดคล้ายประจำเดือนออกมาก่อนกำหนด การจะเริ่มรับประทานยาคุมกำเนิดต่อไป ต้องรอจนกว่าประจำเดือนจะมาตามปกติก่อนครับ หรือพบแพทย์เพื่อเจาะเลือดตรวจว่ามีความเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์หรือไม่จึงจะเริ่มรับประทานยาคุมกำเนิดต่อไป 3. จากข้อมูลที่มีการศึกษาวิจัย พบผู้ที่รับประทานยาคุมกำเนิดปกตินานสุด คือ 12 ปี โดยที่ตรวจไม่พบความผิดปกติอื่นใดต่อร่างกาย แต่จากทางการแพทย์ไม่แนะนำให้รับประทานยาคุมกำเนิดติดต่อกันนานเกิน 5 ปี หากจำเป็นจะแนะนำให้ทำหมันถาวร (ชายหรือหญิง) ก็จะช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านยาหรือลดความเสี่ยงจากการรับประทานยาคุมกำเนิดติดต่อกันนานหลายๆปี 4. ตอบไปใน ข้อ2. แล้วนะครับ และอาจเกิดรังไข่ทำงานแปรปรวน จนไม่มีไข่ตกหรือประจำเดือนมาไม่ปกติหลายเดือน จนกว่าร่างกายจะปรับตัวได้ตามปกติ 5. หากคุณยังไม่แต่งงาน ในปัจจุบัน แนะนำให้ใช้วิธีสวมถุงยางอนามัย เพื่อคุมกำเนิดและช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้อีกด้วย เช่น หนองใน ซิฟิลิส แผลริมอ่อน ตับอักเสบบีหรือซี หูดหงอนไก่ หรือร้ายสุดคือเอดส์ ที่ยังไม่สามารถรักษาได้ นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันการติดเชื้อเอชพีวี ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสที่ติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เชื้อนี้เป็นสาเหตุที่กระตุ้นให้เกิดมะเร็งปากมดลูกในเพศหญิง และมะเร็งองคชาติในเพศชาย การสวมถุงยางอนามัย ถ้าใช้ได้อย่างถูกต้อง เลือกถูกขนาด ใช้ป้องกันได้พอกับการรับประทานยาคุมกำเนิดครับ
เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล แนะนำบทความดี ๆจากกองบรรณาธิการของเราที่ การคุมกำเนิด (Contraception) โดย แพทย์หญิง กีรติ ลีละพงศ์วัฒนา สูตินรีแพทย์ |
Mick*****e