12 ตุลาคม 2555 04:11:01 #1

สวัสดีค่ะ ดิฉันป่วยด้วยนซิสต์ในสมอง ทำให้น้ำคั่งในสมองและไขสันหลังผ่าตัดมาแล้ว 2 ครั้งคือใส่shunt และตัดกะโหลกบางส่วนตรงท้ายทอยออก เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งข้าพเจ้าเคยสร้างกระทู้ถามและคุณหมอได้ตอบมาแล้วเบื้องต้น แต่ข้าพเจ้าอยากถามเพิ่มเติมดังนี้

    1. อาการปวดแขน ปวดหลัง ปวดเอวร้าวจนถึงปลายเท้ายังเป็นอยู่ และก็ค่อย ๆ เพิ่มระดับการปวดมากขึ้น ปรึกษาอาจารย์หมอเมื่อเดือนกันยายน ท่านบอกว่าให้รอดูอาการ 6 เดือน แต่ดิฉันคิดว่าถ้าอย่างนั้นผ่านมาแล้ว 2 เดือนทำไมถึงไม่ทุเลาหรือลดความปวดลงบ้าง จึงไปพบหมออีกเมื่อวานนี้ แต่ไม่พบ อาจารย์หมอเจ้าของไข้ เนื่องจากติดผ่าตัด หมอที่พบท่านนั้นก็ไม่ว่าอะไร บอกแค่ว่านัดอีกทีเดือน พ.ย. แล้วกัน ดิฉันอยากปรึกษาคุณหมอว่า ทำไมดิฉันถึงยังปวดอยู่ แล้วจะทำอย่างไรดีค่ะ เพราะมันบั่นทอนจิตใจมากเลย ปวดก็ปวด ตอนแรกก็พยายามทำใจให้อดทน แต่ถ้ามันทุเลาลงบ้างก็มีกำลังใจ แต่มันไม่ทุเลาเลย สภาพจิตใจก็แย่ลง ถ้าให้รอถึง 6 เดือน จะทำอย่างไร

     2. หมอที่ข้าพเจ้าพบให้ยา tamadol กับ ยา lylica 75 มก. ยา lylica 75 มก.ทาน 3 เวลา เวลา 7.00 น. 1 เม็ด,13.00น.1 เม็ด และ 20.00 น. 2 เม็ด ทานคู่กันกับยา  tamadol 1 เม็ด ดิฉันอยากถามคุณหมอว่า ดิฉันทานยา lylica 75 มก. มาเป็นเวลา 2 ปี ติดต่อกัน จะสะสมในร่างกายหรือไม่ หรือจะมีผลต่อไปในระยะยาวไหม ส่วนยา tamadol เพิ่งมาทานเมื่อมีอาการปวดรุนแรง ซึ่งเมื่อทานยานี้แล้วท้องผูกมาก ไม่ทานจะได้ไหม  เมื่อดิฉันบอกคุณหมอว่าดิฉันปวดมากแล้วคุณหมอก็ให้ทานแต่ยาพวกนี้มันจะไม่ไปสะสมที่ตับเหรอ หมอก็เลยบอกว่าถ้ายังไง 3 เดือนคุณค่อยตรวจตับแล้วกัน แสดงว่ามันจะสะสมในร่างกายหรือค่ะ ดิฉันกลัวค่ะ เพราะญาติของดิฉันส่วนมากเสียชีวิตด้วยโรค มะเร็งตับ หรือไม่ก็มะเร็งลำไส้