ถึง คุณ 1b0fd

เนื่องจากเว็บไซต์เป็นที่สาธารณะ ดังนั้นเพื่อให้ข้อมูลเป็นเรื่องส่วนบุคคลมากที่สุด ทางทีมงานจึงทำการซ่อนชื่อจริงของผู้ถามให้นะคะ โดยคุณ 1b0fd ยังสามารถติดตามคำตอบคุณหมอได้ที่กระทู้นี้ค่ะ

เรียน คุณ 1b0fd,

จากข้อมูลตัวยา ไม่มีแจ้งว่าเกิดปฏิกิริยาร่วมกันนะครับ แต่ให้เฝ้าสังเกตอาการภายหลังได้รับยา alprazolam ซึ่งมีหลายขนาด 0.25, 0.5 และ 1 มิลลิกรัม หากมีอาการหลับลึก หรือหลับนานเกินกว่าปกติ (6-8 ชั่วโมง) ก็ให้ลดขนาดยาลงครึ่งหนึ่งก่อนนะครับ เนื่องจากตัวยาอัลพราโซแลมนี้ ถูกกำจัดผ่านทางตับ หากมีตัวยาอื่นที่ถูกกำจัดทางตับ หรือภาวะการทำงานของตับผิดปกติ ก็อาจทำให้มีอาการเหมือนได้รับยาเกินขนาดขึ้นได้

ขอแนะนำว่าเมื่อติดต่อรับบริการทางการแพทย์ ให้แจ้งด้วยว่ากำลังใช้ยาหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใดร่วมด้วยอยู่บ้างทุกครั้ง เป็นหน้าที่ของผู้ป่วยที่จะต้องดูแลสิทธิความปลอดภัยของตนเอง บางครั้งหากทางรพ.มีผู้ป่วยจำนวนมาก ก็อาจดูแลได้ไม่ทั่วถึงได้ การเกิดปฏิกิริยาระหว่างยา สามารถเกิดขึ้นได้ตลอด แม้ว่ายาตัวที่ทำให้เกิดปัญหา "ยาตีกัน" นั้นจะหมดไปแล้ว เนื่องจากยาจะมีค่าครึ่งชีวิต กว่าจะกำจัดตัวยาออกหมด

ยกตัวอย่างปัญหาที่เกิดขึ้นกับบุคลากรทางการแพทย์ ที่คนอื่นมักคิดว่าน่าจะรู้ข้อมูลยาดีที่สุด เช่นการรับประทานยาปฏิชีวนะกลุ่มแมคโครลายด์ร่วมกับยาแก้ปวดศีรษะไมเกรนกลุ่มเออร์กอต แม้จะเป็นเพียงเม็ดเดียว ก็ทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์รุนแรง ทำให้หลอดเลือดส่วนปลายที่เท้าหดตัวมากเกิน จนเกิดภาวะเนื้อตายจากเลือดไม่ไหลเวียน

ดังนั้น หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการใช้ยา ให้สอบถามจากแพทย์หรือเภสัชกรทันที ไม่ควรรอคำตอบจากทางหน้าเว็บ ซึ่งอาจเกิดปัญหายาตีกัน จนเกิดอันตรายรุนแรงได้

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล

ขอบคุณมากค่ะ ครั้งนี้ลืมจริงๆเลยไม่ได้แจ้ง 

ส่วน alprazolam ได้ขนาด 0.25 มาค่ะ วันแรกหลับได้ 6 ชั่วโมงตื่นรู้สึกเหมือนนอนไม่พอ คิดว่าเพราะนอนไม่หลับมาหลายคืน จริงๆชอบตื่นกลางดึกหรือไม่ก็ตื่นก่อนเวลา พอตื่นแล้วรู้สึกเหมือนนอนไม่พอเป็นมาหลายวันมากก่อนจะได้ไปหาหมอน่ะค่ะ วันที่ 2 ก็เหมือนกันค่ะ นอน 7 ชั่วโมงแต่รู้สึกนอนไม่พอ พอวันที่ 3ดันท้องเสียกลางดึก พอมานอนหลับจนเช้าตื่นสายกว่าปกติไปชั่วโมงนึง คือถ้าไม่มีคนปลุกไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะตื่นตอนไหนคิดว่าเพราะท้องเสียด้วยก็เลยเพลีย ส่วนของวันนี้วันที่ 4 น่ะค่ะ

อย่างนี้ปกติดีมั้ยคะ ไม่ต้องลดยาหรือเปล่า หมอให้ยามา 10 วันน่ะค่ะ

เรียน คุณ 1b0fd,

หากแพทย์ไม่ได้สั่งจ่ายเพื่อเป็นการรักษาอาการทางระบบประสาทและสมอง ที่ต้องรับประทานยาอย่างต่อเนื่อง อาจพิจารณาปรับลดขนาดยาลงได้ หรือหากสามารถนอนหลับได้เองแล้วก็ไม่จำเป็นต้องรับประทานยาอีก หรืออาจโทรศัพท์สอบถามจากแพทย์ผู้ทำการรักษาอีกครั้ง ว่าสามารถหยุดยาได้ทันทีหรือไม่ เนื่องจากยานี้นอกจากช่วยให้มีอาการง่วงซึม ยังช่วยในการรักษาอาการเครียด หรือวิตกกังวลได้อีกด้วย ซึ่งกรณีหลังนี้จำเป็นต้องรับประทานยาอย่างต่อเนื่อง จนกว่าสารเคมีในสมองจะทำงานได้เป็นปกติ อาการง่วงซึมจะค่อย ๆดีขึ้นเอง เมื่อรับประทานยาต่อเนื่องประมาณ 5-7 วัน แต่ควรเข้านอนให้เป็นเวลา เพื่อปรับนาฬิการในร่างกาย ตัวยาจะออกฤทธิ์ประมาณ 6-8 ชั่วโมง ดังนั้น หากจำเป็นต้องตื่นเช้า ก็ควรรับประทานยาให้เร็วขึ้น เพื่อให้ตัวยาลดระดับลงก่อนถึงเวลาตื่น หรือหากยังพบปัญหานี้อีกต่อไป ก็ควรพบแพทย์เพื่อทำการปรับเปลี่ยนยาเป็นยาอื่นต่อไป

หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการใช้ยาเร่งด่วน แนะนำให้สอบถามจากแพทย์หรือเภสัชกรประจำโรงพยาบาลที่คุณไปรักษาอยู่ ไม่ควรรอคำตอบจากทางหน้าเว็บนะครับ เนื่องจากการรักษาบางประการจำเป็นต้องทราบข้อมูลเกี่ยวกับโรค หรือยาอื่นๆ หรือการทำงานของตับหรือไตร่วมด้วย ข้อแนะนำจากทางเว็บก็อาจไม่เหมาะสมกับโรคหรือภาวะการทำงานของตับหรือไตของคุณจนอาจเกิดอันตรายหรือ ช้าไม่ทันการก็เป็นได้ครับ

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล

ขอบคุณมากค่ะ