เรียน คุณ f951e,

Euthyrox เป็นสารสังเคราะห์ออกฤทธิ์คล้ายกับฮอร์โมนธัยรอยด์ตามธรรมชาติ มีการละลายและดูดซึมไม่แน่นอน

ข้อควรปฏิบัติ 

- รับประทานยาขณะท้องว่าง ก่อนอาหาร 30 นาที - 1 ชั่วโมง ควรเป็นเวลาเช้า เนื่องจากใกล้เคียงกับเวลาที่ฮอร์โมนหลั่งตามธรรมชาติ

- รับประทานยาด้วยน้ำเปล่าสะอาดเท่านั้น

- รับประทานอาหารทะเลสม่ำเสมอ ทั้งปริมาณและรูปแบบ เพื่อให้ได้สารไอโอดีนค่อนข้างคงที่ เมื่อเจาะเลือดวัดระดับฮอร์โมนธัยรอยด์ จะค่อนข้างคงที่ ไม่ต้องปรับยาบ่อย ๆ เน้นปลาทะเลจะดีกว่านะครับ จะได้ไอโอดีน น้ำมันปลา (โอเมก้า สาม หก และเก้า) โคเลสเตอรอลจะได้ไม่สูงด้วยครับ

- เมื่อต้องไปรับบริการทางการแพทย์ แจ้งทุกครั้งว่ามียาหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใดที่ใช้อยู่ประจำ เพื่อป้องกันปฏิกิริยา "ยาตีกัน" ที่อาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ไม่ว่าจะพบแพทย์ ทันตแพทย์ หรือไปซื้อยามาใช้เองจากเภสัชกรร้านยา

ข้อที่ควรหลีกเลี่ยง คือ

- หลีกเลี่ยง ชา กาแฟ น้ำอัดลม น้ำแร่

- ไม่ควรรับประทานยาพร้อมกับนมหรือผลิตภัณฑ์จากนม (แคลเซียม) ยาลดกรดเคลือบกระเพาะ (อะลูมิเนียม แมกนีเซียม - แอนตาซิล อะลั่มมิลค์ ฯ) ยาระบายมิลค์ออฟแมกนีเซีย

- หลีกเลี่ยงการรับประทาน"พร้อม" อาหารที่มีกากใยสูง เช่น ถั่ว ผัก

- หลีกเลี่ยงกระหล่ำปลี "ดิบ" เนื่องจากมีสาร goitrogen ซึ่งจับกับฮอร์โมนธัยรอยด์ (ถ้าปรุงสุกสาร goitrogen จะถูกทำลายไป -- รับประทานแบบสุกได้)

- ไม่ซื้อยาหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใด ๆมาใช้ หากยังไม่ได้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร เนื่องจากบางตัวยาทำให้ธัยรอยด์ฮอร์โมนตกตะกอน ไม่ละลายน้ำ บางรายการอาจเสริมฤทธิ์ธัยรอยด์ ทำให้มีอาการรุนแรงขึ้น หรือมีอาการใจสั่น ความดันโลหิตสูงจนเกิดอันตรายขึ้นได้

กลับมาที่คำถามของคุณ Nexium หรือ esomeprazole เป็นยาลดการสร้างกรด ออกฤทธิ์ยับยั้งไม่ให้เยื่อบุผนังกระเพาะอาหารสร้างกรดและน้ำย่อยออกมา จึงออกฤทธฺ์ได้นาน 12-24 ชั่วโมง แตกต่างจากยาลดกรดเคลือบกระเพาะทีมีฤทธิ์เป็นด่าง ต้านกับกรดในน้ำย่อย มีส่วนประกอบของอะลูมิเนียม หรือ แมกนีเซียม เมื่อออกฤทธิ์แล้ว จะไม่มีฤทธฺ์ทางยาอีก เหมือนกับแม่เหล็กขั้วบวก/ลบ ดังนั้น อาจรับประทานธัยรอยด์ฮอร์โมนก่อนอาหาร 1 ชั่วโมง จากนั้นอีกครึ่งชั่วโมงจึงรับประทานยา esomeprazole การดูแลสุขภาพเพื่อป้องกันโรคกรดไหลย้อนกลับมาเป็นซ้ำ ต้องมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพด้วย

- โดยเฉพาะการรับประทานอาหาร ที่จะต้องรับประทานให้ตรงเวลา

- ไม่รับประทานอาหารรสจัด (เผ็ดจัด เปรี้ยวจัด)

- งดเครื่องดื่ม ชา กาแฟ น้ำอัดลม ที่จะทำให้เยื่อเมือกที่เคลือบกระเพาะอาหารลดลง น้ำย่อยหลั่งออกมามากขึ้น

- หลีกเลี่ยงการรับประทานยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDS โดยไม่จำเป็น หรือไม่ได้ปรึกษาแพทย์ หรือเภสัชกร

- หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารมื้อเย็นดึกเกินไป หรือต้องมีเวลาย่อยอย่างน้อย 4 ชั่วโมงก่อนเข้านอน เพื่อป้องกันไม่ให้กรดและน้ำย่อยไหลย้อนขึ้นมาทำลายหลอดอาหาร

- หากมีอาการปวดแสบท้องระหว่างวัน อาจรับประทานแครกเกอร์ ชนิดจืด 1 แผ่น พร้อมกับดื่มน้ำสะอาดมาก ๆ
หรืออาจรับประทานกล้วยน้ำว้า ซึ่งทางสมุนไพร มีฤทธิ์ช่วยลดอาการของโรคกระเพาะอาหารได้อีกด้วย หรือ สมุนไพรขมิ้นชัน ก็ได้ครับ

เป็นกำลังใจให้ครับ

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล

แนะนำบทความดี ๆจากกองบรรณาธิการของเรา

ไทรอยด์: โรคของต่อมไทรอยด์ (Thyroid: thyroid diseases)

กรดไหลย้อน (Gastroesophageal reflux disease)

โดย ศาสตราจารย์เกียรติคุณ แพทย์หญิง พวงทอง ไกรพิบูลย์

ขอบคุณมากค่ะ