เรียน คุณ c55db,

จากข้อมูลของบริษัทยา ไม่พบรายงานว่ามีผลต่อการมีประจำเดือนล่าช้าหรือผิดปกติ แต่เรื่องสิวเพิ่มขึ้นเป็นอาการที่พบได้อยู่แล้ว เนื่องจากตัวยาจะเร่งการหลุดลอกของผิวและสิ่งที่อุดตันในรูขุมขน จึงทำให้รู้สึกว่าเป็นสิวเพิ่มขึ้น หรือที่เรียกว่า "สิวเห่อ" การรับประทานยานี้ ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ เพื่อปรับขนาดยาให้ถูกต้อง ทั้งการเพิ่มและลดขนาดยา ต้องมีการตรวจร่างกาย เพื่อเฝ้าระวังภาวะตับอักเสบจากยา หรือควรสังเกตอาการตนเอง ว่ามีอาการตัวเหลือง ตาเหลือง ปัสสาวะเป็นสีเข้มจัด ร่วมกับอาการแน่นท้อง ท้องอืด โดยควรมีการตรวจการทำงานของตับทุก 3 เดือน จนกว่าจะหยุดรับประทานยา ถ้าแต่งงานแล้ว หรือมีเพศสัมพันธ์ ต้องมีการคุมกำเนิดอย่างเคร่งครัด โดยวิธีการสวมถุงยางอนามัย ไม่แนะนำให้ใช้การรับประทานยาคุมกำเนิด เนื่องจากฮอร์โมนอาจส่งผลต่อการเกิดสิวได้ หลีกเลี่ยงการโดนแดดจัด เนื่องจากเมื่อมีการเร่งการหลุดลอกของผิว จะทำให้ผิวบางลง เกิดการระคายเคืองได้ง่าย หรืออาจเกิดรอยดำ หรือฝ้าได้

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล

แนะนำบทความดี ๆจากกองบรรณาธิการของเรา

สิว (Acne)

โดย แพทย์หญิง ธิดากานต์ รุจิพัฒนกุล แพทย์โรคผิวหนัง