เรียน คุณ meng.kwangrmutt,

ขออนุญาตตอบเป็นข้อ ๆนะครับ

1. การรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉิน จะใช้ต่อเมื่อการคุมกำเนิดปกติผิดพลาด เช่น ถุงยางอนามัยฉีกขาด หรือถูกข่มขืนเท่านั้น เนื่องจากยานี้มีปริมาณฮอร์โมนเพศสูงกว่ายาคุมกำเนิดปกติมากหลายเท่า โดยกลไกคือทำให้มูกที่ปากมดลูกข้นเหนียว อสุจิเข้าสู่ภายในช่องคลอดได้ยาก, ทำให้ท่อนำไข่บีบตัวช้าลง ทำให้ไข่หรือตัวอ่อนเดินทางมาถึงมดลูกช้าลงจนไม่เหมาะสมต่อการฝังตัว หรือเยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัว ไม่เหมาะกับการฝังตัว ดังนั้นภายหลังจากรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินแล้ว มักทำให้รอบประจำเดือนมาไม่ปกติ ส่วนใหญ่ประมาณ 2-3 เดือน จึงจะเข้าสู่ภาวะปกติ

2. การรับประทานยาคุมกำเนิดปกติ ต่อเนื่องจะทำให้รอบเดือนปรับไปจากเดิมด้วย ดังนั้น หากคุณมั่นใจว่ารับประทานยาคุมกำเนิดได้ถูกต้อง เริ่มเม็ดแรกภายในวันแรกของการมีประจำเดือน หรือไม่เกินวันที่ 5 ของประจำเดือน ยาจะเริ่มออกฤทธิ์ยับยั้งไม่ให้มีไข่ตกได้ตั้งแต่เม็ดแรกที่รับประทานยา และรับประทานสม่ำเสมอ (เวลาคลาดเคลื่อนไม่เกิน 1 ชั่วโมงของทุกคืน) โอกาสเสี่ยงในการตั้งครรภ์น่าจะน้อยกว่า 1 เปอร์เซนต์ ส่วนใหญ่ 2-3 เดือนแรกของการรับประทานยาคุมกำเนิด มักจะพบอาการไม่พึงประสงค์ด้านประจำเดือนมาไม่ปกติ และร่างกายจะค่อย ๆปรับตัวให้เข้ากับฮอร์โมนเพศในยาเม็ดคุมกำเนิดได้

สาเหตุที่ประจำเดือนมาไม่ปกติ มีได้หลายสาเหตุครับ เช่น ภาวะเครียด การอดนอน การอดอาหาร ขาดการออกกำลังกาย ภาวะอ้วนหรือน้ำหนักตัวเกิน การรับประทานยาหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีส่วนประกอบคล้ายฮอร์โมนเพศ จากข้อมูลของคุณมีหลายปัจจัยที่มีส่วนต่อภาวะประจำเดือนผิดปกติ เช่น การได้รับฮอร์โมนเพศสูง ๆ การได้รับยาคุมกำเนิด ภาวะน้ำหนักตัวเกินด้วย

หากผ่านไป 2-3 เดือนแล้ว ประจำเดือนยังไม่มา แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล

แนะนำบทความดี ๆจากกองบรรณาธิการของเรา

ประจำเดือน (Menstruation)

ยาเม็ดคุมกำเนิด (Birth control pill)

โดย แพทย์หญิง กีรติ ลีละพงศ์วัฒนา (สูตินรีแพทย์)

ขอบคุณมากๆ คะ