เรียน คุณ warut.ball,

ขอทำความเข้าใจก่อนนะครับ สรุปคือ รับประทานยาติดต่อกันจนครบ 20 เม็ดใช่ไหมครับ ส่วนเม็ดที่เปียกน้ำ ไม่ได้รับประทานลงไป ถ้าเป็นตามนี้ ไม่น่าจะมีผลต่อการตั้งครรภ์นะครับ เนื่องจากเลยช่วงที่ร่างกายจะมีการตกไข่ไปแล้ว และเป็นช่วงที่เริ่มจะมีรอบประจำเดือน แต่ประจำเดือนอาจจะคลาดเคลื่อน (ช้า/เร็วกว่ากำหนด)

การหลั่งในก็ไม่น่าจะมีผลใด ๆครับ ไม่จำเป็นต้องรับประทานยาคุมฉุกเฉินป้องกันไว้ ซึ่งจะเป็นการรับประทานยาซ้ำซ้อนกัน จะทำให้ร่างกายได้รับฮอร์โมนปริมาณมากเกินไป อาจทำให้ประจำเดือนมาผิดปกติ มาล่าช้า หรือไม่มา หรืออาจมาปริมาณน้อย หรือกะปริบกะปรอยได้ นอกจากนี้ การรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินพร่ำเพรื่อ เกินกว่า 2 ครั้งต่อเดือน จะทำให้ประจำเดือนไม่มา หรือมาล่าช้ากว่าปกติ หรืออาจเกิดการตั้งครรภ์นอกมดลูกได้ และยังมีรายงานพบว่าสตรีที่ได้รับยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน โดยไม่มีข้อบ่งใช้ เช่น ไม่ได้ถูกข่มขืน หรือไม่ได้เกิดจากความผิดพลาดของการฉีกขาดของการสวมถุงยางอนามัย และมากเกินกว่า 3 ครั้ง "ตลอดชีวิต" จะมีอัตราเสี่ยงในการเกิดมะเร็งต่ออวัยวะภายในสตรีมากกว่า สตรีที่ไม่เคยได้รับยาคุมกำเนิด หรือที่ได้รับยาคุมกำเนิดปกติ มากกว่าหลายเท่าครับ เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งมดลูก มะเร็งรังไข่ เนื่องจากยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน ประกอบด้วยฮอร์โมนปริมาณสูงมาก เพื่อให้ยับยั้งไม่ให้มีการเดินทางของไข่ หรือเยื่อบุโพรงมดลูกไม่เหมาะสมกับการมาฝังตัวของตัวอ่อน(ที่เกิดจากไข่ + อสุจิ) มูกที่ปากมดลูกจะข้นเหนียว (อสุจิจะผ่านเข้ามาได้ช้าลง จนอาจไม่พบกับไข่)

ดังนั้นคุณต้องรับประทานยาคุมกำเนิดให้ถูกต้องและสม่ำเสมอ เพื่อให้ออกฤทธิ์ยับยั้งไม่ให้มีไข่ตก หรือเยื่อบุโพรงมดลูกมีสภาพไม่เหมาะสมในการฝังตัวของไข่ รอบเดือนจะมาสม่ำเสมอลดอาการปวดประจำเดือน ช่วยรักษาอาการเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ รับประทานยาเวลาใกล้เคียงกันทุกคืน (+/-ไม่เกิน 1 ชั่วโมง) รับประทานยาด้วยน้ำดื่มสะอาดเท่านั้น
ไม่ซื้อยาหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใด ๆมาใช้โดยที่ยังไม่ได้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร มิฉะนั้นระดับยาอาจลดต่ำลงจนเสี่ยงต่อการเกิดการตั้งครรภ์ได้

ขอแนะนำเพิ่มเติม หากมีปัญหาหรือข้อสงสัยเกี่ยวกับการใช้ยา อย่ามัวแต่รอคำตอบจากทางหน้าเว็บ เนื่องจากทุกท่านมีงานประจำ อาจตอบคำถามล่าช้า จนสายเกินแก้ หรือเกิดอันตราย

จากการใช้ยา จนไม่สามารถปรับเปลี่ยนได้ (เช่น ตั้งครรภ์ไปแล้ว ยาตีกันจนเกิดอันตรายถึงแก่ชีวิต - แพ้ยา เกิดลมชัก หรือกดการหายใจฯ) สามารถปรึกษาเภสัชกรประจำร้านยาหรือโรงพยาบาลใกล้บ้านทันทีจะดีกว่าครับ
หมายเหตุ ยาที่ชื้นหรือเปียกน้ำไปแล้ว การห่อกระดาษไว้ ไม่ได้ทำให้ยาแห้งและเก็บได้เหมือนเดิม หากเปียกหรือชื้น ให้รับประทานยาเม็ดนั้นแทนยาเม็ดที่ต้องรับประทานคืนนั้นแทน

การเก็บใส่กระดาษ ตัวยาก็สูญเสียไปอยู่ดี ถึงแม้คุณจะรับประทานยา ตัวยาก็อาจคงเหลือน้อยกว่าที่จะได้ผลครับ

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล