แต่ละโรคมีธรรมชาติของโรคแตกต่างกันค่ะ สำหรับโรคเซบเดิมมีโอกาสที่อาการจะเป็นๆหายๆ ความถี่ของการกำเริบและความรุนแรงนั้นขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล เป็นธรรมดาของผู้ที่มีอาการของโรคเซบเดิมจะมีอาการมากบ้างน้อยบ้างตามแต่ช่วง หากดูแลสุขภาพดีลดความเครียดก็มีช่วงที่โรคสงบเป็นเวลานานได้ ในเคสของน้องถ้าตอนนี้เป็นช่วงที่อาการกำเริบมากโดยเฉพาะบริเวณปากที่ส่งผลกระทบต่อจิตใจเพราะอยู่บนใบหน้าทำให้วิตกกังวล ก็รู้ไว้ว่าไม่นานโรคต้องสงบแน่เพราะธรรมาดาของโรคนี้ไม่อยู่ตลอดจะเป็นๆหายๆ สิ่งสำคัญคือเราจะทำอย่างไรให้โรคสงบได้เร็วและความถี่ในการกำเริบของโรคน้อยลงค่ะ

• ใช้ยาทาในช่วงที่โรคกำเริบ เมื่อไปพบคุณหมอคุณหมอมักให้ยาทาที่มีสเตียรอยเพื่อใช้ในช่วงสั้นๆ หรือยาที่มีตัวยาฆ่าเชื้อราเช่น ketoconazole เพราะเชื่อราเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดโรคแต่ไม่ได้หมายความว่าเราเป็นคนสกปรกนะคะ ความเข้าใจเกี่ยวกับสาเหตุการเกิดโรคนั้นยังไม่ชัดเจนเกี่ยวข้องกับทั้งเชื้อรา ระบบภูมิคุ้มกัน สิ่งแวดล้อม เรื่องของการถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์นั้นยังไม่มีการยืนยันชัดเจน
• เนื่องจากรอยโรคมักพบบริเวณที่มีต่อมไขมันผลิตน้ำมันมาก การล้างทำความสะอาดด้วยสบู่อ่อนเพื่อลดความมันของบริเวณนั้นก็น่าจะสามารถบรรเทาอาการได้ค่ะ แต่ไม่ได้หมายความว่าให้ล้างวันละหลายๆครั้งจนผิวถลอกลอกก็จะกลายเป็นผลเสียไป คือล้างแต่พอดีไม่ให้ผิวมันค่ะ
• มีการสังเกตุว่าอาการจะเป็นมากในช่วงอากาศเย็นเช่นฤดูหนาว จึงแนะนำให้หลีกเลี่ยงและระวังช่วงอากาศเย็นค่ะว่าอาจจะกำเริบได้ แต่บ้านเราอาการอบอุ่นถึงร้อนทั้งปีในส่วนนี้ก็อาจมีผลกระทบน้อยหน่อยแต่ในกรณีที่น้องไปต่างประเทศเมืองหนาวก็อาจจะต้องเตรียมยาไปเผื่อไว้ด้วย
• แสงแดด แสงแดดสามารถช่วยลดอาการของโรคได้ แต่ไม่ได้หมายถึงให้ออกไปตากแดดทั้งวันจนผิวไหม้นะคะ ที่แนะนำคือให้มีกิจกรรมกลางแจ้งบ้างตามความเหมาะสม เพราะเหล่านี้เป็นปัจจัยประกอบทางสิ่งแวดล้อมเท่านั้นไม่ใช่การรักษาหลัก เช่นถ้าเราเป็นคนทำงาน office อยู่แต่ในร่มทั้งวันก็หากิจกรรมางแจ้งทำบ้างเช่นปั่นจักรยานตอนเช้า ตีเทนนิส
• พักผ่อนให้เพียงพอค่ะ ได้ผลดีทั้งกับโรคเซบเดิมและสุขภาพโดยรวม
• ลดความเครียด คนไทยเราโชคดีที่มักได้รับคำแนะนำเรื่องการทำสมาธิมาตั้งแต่เด็ก ลองใช้การทำสมาธิเพื่อลดความเครียดดูนะคะ

ขอบคุณคุณหมอมากๆค่ะ สำหรับคำแนะนำดีๆ ^-^