กระดานสุขภาพ
รักแร้เปื่อย และ ขาหนีบ | |
---|---|
12 พฤษภาคม 2557 05:50:13 #1 เป็นคนอ้วนคะ ตอนนี้รักแร้มีการเปื่อยเปนสีแดง และที่ขาหนีบมีอาการคัน แดง มีการลามไปเกือบถึงก้น ไปหาหมอมาแล้ว หมอหั้ยยาทาเป็น clotrimazole และยากินฆ่าเชื้อรา ยาแก้แพ้เม็ดสีเหลือง กินและทาได้ประมานวันนี้วันที่ 6 ก้เหมือนจะแห้งขึ้น แต่ที่รักแร้ เหมือนมีน้ำเหนียวๆ ออกมา ไม่ทราบว่าเป็นเพราะอะไรคะ และวิธีรักษาที่ดีที่สุดคืออะไร เพราะตอนนี้พยายามทำหั้ยแห้งเสมอ แต่บางทีก้เลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องออกไปนอกบ้าน ทำงาน ทำหั้ยเกิดอาการอบ ขึ้นมาอีก พยายามไม่ใส่ กางเกงในคะ เพราะเหมือนขอบกางเกงในจะบาดขาหนีบ ตอนนี้ที่ขาหนีบมีอาการแสบมาถึงแคมนอกแล้ว ต้องทำยังงัยคะ รบกวนขอคำแนะนำด้วยคะ // ขอบคุณคะ |
|
อายุ: 25 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 105 กก. ส่วนสูง: 170ซม. ดัชนีมวลกาย : 36.33 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
รศ.พญ.เปรมจิต จันทองจีนแพทย์โรคผิวหนัง |
19 พฤษภาคม 2557 17:48:50 #2 เข้าใจว่าที่หมอรักษาคือการติดเชื้อราที่ผิวหนังค่ะ ซึ่งมักเป็นตามบริเวณรอยพับ รอยกด อับชื้น และยิ่งเมื่อมีเหงื่อออกก็จะทำให้ผื่นแย่ลง ไม่แห้ง การรักษา
|
Kaki*****y |
22 พฤษภาคม 2557 05:35:43 #3 ขอบคุณ คุณหมอมากคะ// ตอนนี้ อาการแดวเริ่มดีขึนแล้ว แต่ยังเหลืออาการคันอยุ่ ยากินแก้แพ้ก้หมดแล้วคะ แต่ยังคันอยุ่เลย พอจะมียาทาตัวไหน ที่แก้คันได้ดีไหมคะ แล้วก้ที่รักแร้ ยังมีกลิ้่นเหม็นแบบแปลกๆออกมาอยุ่เลยคะ // และอยากทราบอีกเรื่องคือพยาธิในตัว มีผลไหมคะ แล้วการกินยาถ่ายพยาธิสามารถทานได้เลยไหมคะ หรือต้องปรึกษาแพทย์ก่อนทา ไม่เคยทานยาถ่ายพยาธิเลยคะ |
รศ.พญ.เปรมจิต จันทองจีนแพทย์โรคผิวหนัง |
23 พฤษภาคม 2557 17:22:18 #4 การติดเชื้อราที่ผิวหนัง อาจจำเป็นต้องทายารักษาต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน 2-4 สัปดาห์ แม้ว่าผื่นจะหายไปหมดแล้วก็ตามค่ะ เพื่อให้ได้ผลการรักษาที่เต็มที่ และสามารถรับประทานยาแก้คันต่อเนื่องได้ ถ้ายังมีอาการคันค่ะ รักแร้เหม็น ส่วนใหญ่เกิดจาก 2 ปัจจัยหลัก คือ
ซึ่งเมื่อแบคทีเรียที่สะสมร่วมกับเหงื่อที่มีอยู่ จะทำให้มีกลิ่นเหม็นได้ ดังนั้นจึงแนะนำให้รักษาดังนี้
พยาธิ ไม่น่าเกี่ยวกับภาวะที่เกิดขึ้นค่ะ ส่วนยาถ่ายพยาธิโดยทั่วไปแนะนำให้พบแพทย์ก่อนว่ามีพยาธิหรือไม่ ค่อยรับประทานยาถ่ายพยาธิ อย่างไรก็ตาม การรับประทานยาถ่ายพยาธิซื้อทานเอง ก็ได้ค่ะ |
Kaki*****y