กระดานสุขภาพ

ฝังยาคุมกำเนิด ไปนาน ๆ จะมีผลข้างเคียง หรือผลเสีย หรือเสี่ยงต่อการเกิดโรคดอะไรบ้าง
Pwsu*****k

10 พฤษภาคม 2556 17:49:42 #1

ดิฉันได้รับการฝังยาคุมกำเนิดแบบ 3 ปี ตั้งแต่ปี 2545 (26 ปี)

จนปัจจุบันนี้ ก็ยังฝังอยู่ ถ้าหากฝังแบบนี้ไปเรื่อย ๆ จนอายุ 50 -60 ไม่ทราบว่า

จะมีอันตรายอย่างไรบ้าง และเมื่อถึงอายุคราวนั้น แล้วไม่ฝังต่อ

ไม่ทราบว่ายังมีประจำเดือนอีกหรือไม่

ขอบพระคุณคะ

(ตั้งแต่ฝังมาจนถึงปัจจุบัน ไม่มีประจำเดือนเลยคะ แต่จะอาการคัดหน้าอกบ้างเล็กน้อย แต่ไม่บ่อย

ซึ่งปัจจุบันนี้ ดิฉันเป็นผังผืดที่รอยผ่าคลอด จะมีอาการเจ็บ ๆ แสบ ๆ อยู่ด้วย คลำไปก็จะเป็นก้อนนูน ขึ้นมาเล็กน้อย

อยากทราบว่า การเป็นผังผืดที่รอยผ่าคลอดนี้ จะมีอัตราความเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งหรือไม่คะ เพราะนับวันมันก็ยิ่งทวีความเจ็บๆ แสบๆ บางครั้งต้องเดินงอตัว ยืดตัวไม่ค่อยได้ เวลาที่มีอาการ)

 

 

อายุ: 37 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 59 กก. ส่วนสูง: 169ซม. ดัชนีมวลกาย : 20.66 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

12 พฤษภาคม 2556 04:13:35 #2

ปกติแล้วยาคุมกำเนิดแบบฝังนั้น เป็นฮอร์โมนโปรเจสโตรโลน ที่ออกฤทธิ์ยับยั้งการตกไข่และทำให้เยื่อบุมดลูกไม่พร้อมต่อการฝังตัว ซึ่งจะมีผลให้ช่วงที่ใส่นั้น ไม่มีประจำเดือนในช่วงอายุของยานั้น ครับ ดังนั้น หากใส่ชนิด 3 ปี หลังจาก 3 ปีแล้ว ฮอร์โมนที่อยู่ในตัวยาฝังนั้น จะหมดไป ทำให้เกิดการตกไข่และมีประจำเดือนตามปกตินะครับ

ดังนั้น ถ้าหากหลัง 3 ปีแล้ว ควรจะต้องมีประจำเดือนมาเป็นปกติแล้ว ถ้าหากไม่มีถือว่า ผิดปกตินะครับ ควรมาพบสูตินรีแพทย์ เพื่อหาสาเหตุครับ ส่วนยาฝังนั้น ถ้าหากหมดอายุก็ควรเอาออกครับ แต่ถ้าหากไม่ได้ลำคาญหรือไม่ได้มีปัญหาอะไร การทิ้งไว้ก็ไม่ได้เป็นอันตรายครับ

ส่วนรอยแผลที่ิิผิวหนังที่เกิดจากการผ่าตัดนั้น อาจเป็นนูนๆ สีอ่อนหรือคล้ำกว่าผิวหนังปกติได้ครับ ซึี่งจะมีมากน้อย ขึ้นกับผิวหนังแต่ละบุคคลครับ ถ้าหากมีมาก อาจทำให้มีอาการไม่สบายบริเวณผิวหนังได้ เนื่องจากจะดึงรั้งได้ แต่จะไม่เป็นความเสี่ยงของมะเร็งผิวหนังนะครับ ดังนั้น หากเจ็บ ตึง ไม่สบายตัวมากๆ วิธีการหนึ่งคือ การผ่าตัดแก้ไขแผล อาจด้วยการตัดผิวหนังส่วนที่เป็นผังพืดออกและเย็บใหม่ ซึ่งในช่วงแรกอาจดีขึ้น แต่ระยะยาวก็อาจเป็นได้อีก เนื่องจากปัจจัยการเกิดผังพืด เกิดจากผิวหนังของแต่ละบุคคลเป็นหลัก หากเคยมีแผลเป็นหนา ผังพืดมาก ก็อาจคาดเดาว่า อาจเป็นซ้ำแบบเดิมได้อีกครับ ส่วนวิธีอื่นๆ เช่น เลเซอร์ หรือวิธีอื่นๆ อาจลองมาปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมตกแต่งครับ