ถึง คุณ b4097

รบกวนช่วยให้ข้อมูลเพิ่มเติมดังต่อไปนี้นะคะ เพื่อให้คุรหมอวินิจฉัยได้ตรงจุดยิ่งขึ้นคะ

1. ระยะเวลาตั้งแต่เริ่มมีอาการนานกี่เดือน
2. รวมเป็นมากี่ครั้ง ครั้งนี้เป็นมานานกี่วัน กี่สัปดาห์
3. เดิมเคยมีความปกติบริเวณหูหรือไม่ เช่น มีรูหรือรอยบุ๋ม หนองออกหู แก้วหูอักเสบ เป็นต้น
4. ก้อนที่คออยู่ตรงตำแหน่งใด เช่น คอด้านข้าง คอส่วนหน้า หรือค่อนไปทางด้านหลัง อยู่ใต้คาง หรืออยู่ในแอ่งไหปลาร้า
5. ก้อนมีขนาดกว้าง-ยาวเท่าไร หรือเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณเท่าไร มีกี่ก้อน ก้อนโตขึ้นเรื่อยๆหรือไม่ ก้อนเล็กๆรวมกันเป็นก้อนใหญ่หรือไม่ ก้อนสามารถเลื่อนย้ายที่หรือติดยึดกับเนื้อเยื่อข้างล่าง
6. ลักษณะก้อนเป็นเนื้อ หรือมีน้ำข้างใน กดแล้วยุบหรือไม่ ผิวหนังส่วนรอบๆสีอะไร
7. มีก้อนคลำได้ที่รักแร้ ขาหนีบ ก้อนในท้องหรือไม่
8. มีแผลบริเวณใกล้เคียงมาก่อนหรือไม่
9. เคยได้รับการตรวจ รักษา หรือซื้อยากิน ผลการตรวจ-รักษาเป็นอย่างไร
10. ประวัติการป่วยเจ็บ เช่น วัณโรค โรคติดเชื้อ HIV โรคในครอบครัว
11. ข้อมูลอย่างอื่นที่คิดว่าแพทย์ควรทราบ

1. ที่คอประมาณ1อาทิตย์
2. ถ้าที่คอ ครั้งแรก เป็นมาประมาณ 1 อาทิตย์ ตอนนี้ยังไม่หาย ถ้าที่หู เป็นเมื่อ 3-4 เดือนก่อน เป็นอยู่ประมาณเดือนกว่าๆ
3. หูเคยเป็นหนองเพราะเจาะหู เมื่อ 8 ปีก่อน
4. ใต้คางลงมาอยู่ข้างซ้ายข้างลูกกระเดือก
5. ก้อนกว้างประมาณ1ซม.ตั้งแต่เริ่มเป็นจนตอนนี้ก้อนค่อยยุบลงเล็กน้อย เคลื่อนไม่ได้ ยึดอยู่กับที่
6. ตอนแรกที่เป็นบีบแล้วปวดแต่ตอนนี้ไม่ปวดแล้วเวลาบีบ
7. ไม่มี
8. ไม่มี
9. ไม่เคยตรวจเลย
10. ไม่มี

คุณ b4097 อายุ 17 ปี เป็นก้อนเล็กๆ ที่คอใต้คางด้านข้างลูกกระเดือก ขนาดประมาณ 1 ซม. มีอาการเจ็บเมื่อจับถูก ก้อนไม่เคลื่อนย้าย เป็นมา 1 สัปดาห์ ก้อนนี้เป็นการอักเสบจากการติดเชื้อในเนื้อเยื่อใกล้ต่อมน้ำเหลืองที่คอ เชื้อก่อโรคน่าจะเป็นเชื้อแบคทีเรีย เมื่อมีการติดเชื้อ เชื้อแบคทีเรียจะหลั่งสารตัวกลาง ทำให้เกิดการอักเสบ หลอดเลือดขยายตัว ทำให้มีเลือดอยู่ในเนื้อเยื่อ เป็นก้อนบวมแข็ง กับเซลล์เม็ดเลือดขาวจากระบบไหลเวียนเลือด ถูกดึงดูดเข้ามายังบริเวณที่อักเสบเป็นจำนวนมาก

เมื่อ 3-4 เดือนก่อน เคยเป็นก้อนลักษณะเดียวกัน มีหลายก้อนที่ใกล้หู เจ็บด้วย ก้อนที่หูก็เช่นเดียวกัน เป็นการอักเสบติดเชื้อแบคทีเรีย ภายในก้อนมีเลือดอยู่ในเนื้อเยื่อเป็นจำนวนมาก เมื่อคุณ b4097 บีบ ก้อนจึงแตกมีเลือดไหล ยิ่งบริเวณใบหน้า ศีรษะ เป็นเนื้อเยื่อส่วนที่มีหลอดเลือดมาก เวลาเลือดไหลจึงมีเลือดออกมาก

ก้อนที่เป็นหากปล่อยทิ้งไว้ ภายในก้อนจะเปลี่ยนเป็นหนอง ก้อนจะนุ่มลง อาจมีหรือไม่มีเปลือกหุ้ม และกลายเป็นฝี

การรักษาระยะเริ่มต้น คือการกินยาปฏิชีวนะ แต่หากปล่อยไว้จนเป็นก้อนใหญ่ขึ้น เมื่อกดแล้วนุ่ม ต้องกรีดก้อนเพื่อระบายหนอง การจะให้หายขาดจำเป็นต้องให้แพทย์ตรวจหาสาเหตุหรือความผิดปกติของอวัยวะใกล้เคียง เช่น มีรูบริเวณหน้าหู preauricular sinus หรือเป็นถุงน้ำที่คอ branchial cleft cyst หรือ thyroglossal cyst และต้องรักษาสาเหตุด้วยครับ