กระดานสุขภาพ
ผลการตรวจเชื้อซิฟิลิส | |
---|---|
10 พฤษภาคม 2562 08:31:19 #1 ดิฉันไปตรวจเชื้อซิฟิลิสที่โรงพยาบาลรัฐแห่ง1. ผลตรวจเลือดลบ (ดิฉันและแฟนไม่มีผื่นหรือแผลค่ะ และคบกับแฟนมา2ปีแล้วค่ะ ดิฉันมั่นใจว่าแฟนไม่นอกใจเพราะยุด้วยกันค่ะ ) ผลเลือดเชื่อถือได้รึป่าวค่ะ |
|
อายุ: 28 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 47 กก. ส่วนสูง: 157ซม. ดัชนีมวลกาย : 19.07 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
พญ.กิติพร กวียานนท์แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว/เวชศาสตร์ทั่วไป |
12 พฤษภาคม 2562 15:46:17 #2 โรคซิฟิลิส(Syphilis) เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์โรคหนึ่งซึ่งสามารถรักษาให้หายขาดได้แต่ถ้าปล่อยทิ้งไว้ในระยะยาวอาจแสดงอาการในหลายระบบของร่างกายเช่นทางระบบประสาทผิวหนังตากระดูกหัวใจและหลอดเลือดเป็นต้นนอกจากนี้ถ้าสตรีเป็นโรคนี้ในขณะตั้งครรภ์มีโอกาสถ่ายทอดเชื้อไปสู่ทารกในครรภ์ได้ด้วยส่งผลให้ทารกมีภาวะซิฟิลิสแต่กำเนิดได้ อาการของโรคซิฟิลิสแบ่งออกเป็น3 ระยะดังนี้ ระยะที่1เมื่อได้รับเชื้อบริเวณที่ได้รับเชื้อเช่นที่บริเวณอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอก2 - 4 มิลลิเมตรจากนั้นจะเริ่มขยายออกมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆและจะแตกออกกลายเป็นแผลที่กว้างขึ้นเป็นรูปไข่หรือวงรีขอบมีลักษณะเรียบและแข็งแผลมีลักษณะสะอาดบริเวณก้นแผลแข็งมีลักษณะคล้ายกระดุมไม่มีอาการเจ็บปวดต่อจากนั้นเชื้อจะเข้าไปอยู่ที่ต่อมน้ำเหลืองบริเวณขาหนีบส่งผลให้มีต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโตเมื่อทิ้งไว้แผลสามารถหายไปได้เองโดยไม่ต้องรักษาระยะนี้เป็นระยะที่ยังไม่แสดงอาการ ระยะที่2 จะพบหลังการเป็นโรคระยะแรก2 - 3 สัปดาห์เชื้อซิฟิลิสจะเข้าไปอยู่ตามต่อมน้ำเหลืองทั่วร่างกายเช่นบริเวณหลังหูหลังขาหนีบและขาพับและเข้าไปสู่กระแสเลือดรวมทั้งกระจายไปตามอวัยวะต่างๆของร่างกายจะทำให้เกิดผื่นขึ้นตามร่างกายหรือเรียกว่า“ระยะออกดอก” ผื่นที่พบมีความแตกต่างจากผื่นลมพิษทั่วไปเพราะผู้ป่วยจะมีผื่นขึ้นที่บริเวณฝ่ามือด้วยและจะไม่มีอาการคันผื่นมีลักษณะเป็นตุ่มนูนและอาจพบมีเนื้อตายจากผื่นเป็นหย่อมๆและพบเนื้อเน่าหลุดออกมามีน้ำเหลืองและในน้ำเหลืองจะมีเชื้อซิฟิลิสระยะนี้เป็นระยะที่ติดต่อได้โดยง่ายผู้ป่วยบางรายอาจจะไม่มีผื่นขึ้นเลยแต่อาจจะมีอาการไข้เจ็บคอปวดเมื่อยตามข้อผมร่วงทั่วศีรษะหรือร่วงเป็นหย่อมๆ เมื่อทำการตรวจเลือดในระยะนี้จะพบว่ามีผลบวกของเลือดสูงมากถ้าผู้ป่วยยังไม่ได้รับการรักษาโรคจะอยู่ใน“ระยะสงบ” โดยเชื้อจะไปหลบซ่อนตามอวัยวะต่างๆในร่างกายและจะไม่แสดงอาการได้นานหลายปีเพียงแต่ตรวจเลือดให้ผลบวกเท่านั้น ระยะที่3 เป็นระยะสุดท้ายของโรคหรือระยะแฝงเมื่อไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้องผู้ป่วยจะเข้าสู่ระยะที่3 ประมาณ3 - 10 ปีหลังจากระยะที่1 โดยมีอาการตามระบบต่างๆของร่างกายเช่นตาบอดเนื้อจมูกถูกทำลายจนเป็นรอยโหว่หูหนวกใบหน้าผิดรูปกระดูกผุบางอาจมีสติปัญญาเสื่อมบางรายอาจมีการแสดงออกที่ผิดปกติคล้ายคนเสียสติถ้าเชื้อไปอยู่ที่หัวใจก็จะทำให้หัวใจมีความผิดปกติลิ้นหัวใจรั่วหลอดเลือดแดงใหญ่ที่ออกจากหัวใจมีลักษณะโป่งพองทำให้เกิดความเสี่ยงต่อภาวะหัวใจวายได้ถ้าเชื้อเข้าไปอยู่ที่ไขสันหลังก็จะทำให้เป็นอัมพาตและมีความเสี่ยงต่อการเสียชีวิต(ตาย) ได้ โรคซิฟิลิสสามารถติดต่อได้จากการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่เป็นโรคนี้ในระยะที่1 และถ้าสัมผัสกับน้ำเหลืองที่ผิวหนังของผู้ที่เป็นโรคนี้ในระยะที่2 (ระยะออกดอก) ก็มีโอกาสที่จะรับเชื้อได้เช่นกันนอกจากนี้ในทารกที่ได้รับเชื้อผ่านมาจากมารดาโดยตรงโดยผ่านจากทางรก ส่วนโรคในระยะที่3 มักเป็นระยะที่ไม่มีการติดต่อ การรักษาเมื่อเกิดแผลบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์โดยเฉพาะหลังการมีเพศสัมพันธ์ควรพบแพทย์เสมอเพื่อรับการตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุของแผลที่เกิดขึ้นและเมื่อตรวจพบว่าเป็นโรคซิฟิลิสแม้ว่าจะไม่มีอาการหรืออยู่ในระยะโรคสงบก็ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาเพราะเชื้อซิฟิลิสยังอยู่ในกระแสเลือดและพร้อมที่จะลุกลามจนเกิดอาการที่รุนแรงได้ต่อไปทั้งนี้แพทย์จะรักษาด้วยยาปฏิชีวนะกลุ่มเพนิซิลลินในขนาดสูงและจะต้องไปฉีดยาตามที่แพทย์นัดทุกครั้งการขาดยาจะเป็นสาเหตุสำคัญให้โรคไม่หายและเกิดโรคในระยะที่3 ได้ การดูแลตนเองการป้องกันและการพบแพทย์ในโรคซิฟิลิสคือ หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์กับหญิง/ชายที่เป็นโรคนี้ ไม่สำส่อนทางเพศ หลีกเลี่ยงการเที่ยวหญิง/ชายบริการ ป้องกันการติดเชื้อโดยสวมถุงยางอนามัยชายทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ ทำความสะอาดบริเวณอวัยวะเพศและร่างกายอยู่เสมอ หลีกเลี่ยงการดื่มสุราเพราะจะทำให้ขาดสติ รัฐควรมีการควบคุมโรคในกลุ่มหญิง/ชายที่ขายบริการทางเพศ รักษาสุขอนามัยพื้นฐาน(สุขบัญญัติแห่งชาติ) เสมอเพื่อร่างกายแข็งแรงและเพื่อลดโอกาสติดเชื้อ พบแพทย์เสมอเมื่อมีอาการดังกล่าวอย่ารักษาตัวเอง พบแพทย์เสมอเมื่อกังวลในอาการหรือสงสัยตนเองอาจติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์(โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์) ซึ่งรวมถึงซิฟิลิส |
Su86*****2