กระดานสุขภาพ
ดื่มนมหวานแทนน้ำเสี่ยงเบาหวานไหม | |
---|---|
26 พฤศจิกายน 2560 17:16:11 #1 เป็นคนชอบดื่มนมหวานมากครับ ดื่มแทนน้ำเลยก็ว่าได้วันนึงดื่มประมาณ4-6กล่องเลยครับเป็นนมหวานหมด น้ำแทบไม่แตะ เลย ทำเป็นประจำประมาณปีนึงไม่ก็2ปีได้แล้วครับ ไม่ทราบว่ามีโอกาสเป็นเบาหวานรึเปล่าครับ น้ำหนัก41 สูง168 เป็นคนผอมอยู่แล้ว ตรวจเลือดล่าสุดตอนเดือนมิถุนา ผลออกมาปกติดี |
|
อายุ: 15 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 41 กก. ส่วนสูง: 168ซม. ดัชนีมวลกาย : 14.53 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
อาจารย์พีระพรรณ โพธิ์ทองนักวิชาการโภชนาการ |
27 พฤศจิกายน 2560 18:22:04 #2 แนวโน้มน่าจะชอบรสหวานซึ่งก็มีความเสี่ยงที่จะเป็นเบาหวานได้เช่่นกัน ในการกินอาหารรสหวานร่างกายจะมีฮอร์โมนอินซูลินมาจัดการน้ำตาลในเลือดให้มีค่าอยู่ในเกณฑ์ปกติ ในระยะยาวร่างกายอาจเกิดภาวะดืื้อต่ออินซูลินทำให้ไม่สามารถรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้มีค่าอยู่ในเกณฑ์ปกติได้อีกต่อไปก็อาจจะพบมีน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นเรื่อยๆ จนเป็นเบาหวานได้ในที่สุด ในนมหวาน 1 กล่อง ดูจากฉลากอาหารจะพบว่ามีน้ำตาลไม่น้อยกว่า 20 กรัม ซึ่งคือ 4 ช้อนชา ในการดื่มนมก็เพื่อเป็นแหล่งของแคลเซียม ความต้องการแคลเซียมของช่วงวัยรุ่นควรได้ 1,000 - 1,500 มิลลิกรัมต่อวันซึ่งมีข้อแนะนำให้ดื่มนมได้วันละ 2 กล่อง ( 250 ซี.ซี ต่อกล่อง )และได้รับแคลเซียมจากอาหารชนิดอื่นหลากหลายในแต่ละวันร่างกายก็จะได้รับแคลเซียมอย่างเพียงพอ การดื่มนมมากเกินไปต่อวันอาจทำให้ร่างกายได้รับทั้งแคลเซียมและฟอสฟอรัสมากเกินความต้องการของร่างกาย และการที่ร่างกายได้รับปริมาณฟอสฟอรัสมากเกินจำเป็นจะกระตุ้นต่อมพาราไทรอยด์ให้หลั่งฮอร์โมนออกมาสลายกระดูก จนเป็นเหตุให้มวลหรือเนื้อกระดูกบางลงได้ เนื่องจากโรคเบาหวานเป็นโรคที่เป็นกรรมพันธุ์ ถ้ามีบุคคลในครอบครัวเป็นเบาหวานคุณก็จะยิ่งมีความเสี่ยงจะเป็นเบาหวานเพิ่มขึ้น ทางที่ดีเปลี่ยนเป็นดื่มนมจืดแทนและดื่มไม่เกิน 2-3 กล่องต่อวันก็พอโดยเลือกดื่มเป็นนมไขมันธรรมดาไม่ต้องเป็นนมพร่องไขมัน ป้องกันไว้ดีกว่าแก้ ควรลดความหวานลงและดื่มน้ำเปล่าแทนให้ได้อย่างน้อย 1.5 - 2 ลิตรต่อวัน ขอบพระคุณอาจารย์พวงทองและทีมงานค่ะ พีระพรรณ โพธิ์ทอง |
Anonymous |
28 พฤศจิกายน 2560 18:03:05 #3
แล้วเปลี่ยนพฤติกรรมการกินตอนนี้จะยังทันไหมครับ
|
อาจารย์พีระพรรณ โพธิ์ทองนักวิชาการโภชนาการ |
29 พฤศจิกายน 2560 16:08:13 #4 การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินสามารถทำได้ตลอดเวลาโดยเฉพาะเมื่อมีความตั้งใจ มีความพร้อมในการจะปรับเปลี่ยน มีทฤษฏีลำดับขั้นตอนของการเปลี่ยนแปลง ได้จัดขั้นตอนของการเปลี่ยนแปลงออกเป็น 6 ขั้นตอนดังนี้ 1. Pre - contemplation ขั้นตอนนี้ยังไม่พร้อมสำหรับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและอาจจะยังไม่เห็นว่าพฤติกรรมที่ทำอยู่ นั้นเป็นปัญหา 2. Contemplation เป็นขั้นตอนที่ได้รับรู้ถึงปัญหาที่เกิดและคิดว่าน่าจะปรับเปลี่ยนพฤติกรรม แต่ยังไม่เริ่มปรับพฤติกรรมใดๆ 3. Preparation เป็นขั้นตอนเริ่มวางแผนการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เริ่มตั้งเป้าหมาย เตรียมพร้อมสำหรับการปรับเปลี่ยน 4. Action เป็นขั้นเริ่มปฏิับัติตามแผนที่ได้ว่างเอาไว้ในการจะปรับเปลี่ยนพฤติกรรม 5. Maintenance เป็นขั้นตอนที่สามารถปฏิับัติตามแผนที่วางไว้ในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมได้อย่างน้อย 6 เดือน 6. Relapse เป็นขั้นตอนที่อาจเกิดขึ้นหรือไม่ก็ได้ คือ ผู้ปรับเปลี่ยนได้กลับไปทำพฤติกรรมเดิมๆ และในขั้นตอนสุดท้ายไม่อยู่ใน 6 ขั้นตอนคือ Termination เป็นขั้นตอนที่การปรับเปลี่ยนกลายเป็นนิสัยและค่อนข้างมั่นใจว่า ผู้ปรับเปลี่ยนจะไม่กลับไปทำพฤติกรรมเดิม ๆ อีก สำหรับของคุณน่าจะอยู่ในลำดับขั้นที่ 2 แล้ว คุณมองเห็นปัญหาที่อาจเกิดขึ้นและคิดว่าน่าจะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดื่มนมหวาน แทนการดื่มน้ำ มาเป็นดื่มนมจืด 2 กล่องต่อวันแทนและดื่มน้ำเปล่าระหว่างวันเพิ่มขึ้ ก็จะเป็นการเริ่มทำขั้นตอนที่ 3,4,5 ต่อไป อย่าลืมข้ามขั้นตอนที่ 6 และเข้าสู่ Termination ให้ได้ก็จะเป็นประยุกต์ทฤษฏีลำดับขั้นการเปลี่ยนแปลงมาใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างเหมาะสม ขอส่งกำลังใจมาช่วยให้คุณประสบผลสำเร็จในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินได้ในเร็ววันและมีสุขภาพที่แข็งแรงในอนาคต
|
Anonymous