กระดานสุขภาพ
สวัสดีค่ะ คุณหมอ หนูมีความต้องการอยากรู้ค่ะ | |
---|---|
13 กันยายน 2560 04:27:46 #1 ก่อนอื่นหนูขอบอกว่าหนูมีอาการถ่ายอุจจาระเป็นก้อนเล็กลูกกระสุนติดต่อกันเป็นเวลานานแต่หนูไม่ได้สนใจอะไรค่ะกินยาระบายมะขามแขกก็ดีขึ้นถ่ายปกติพอ2-3 วันก็เป็นอีก เป็นอยู่อย่างนี้ประมาณ หลายเดือนแล้วค่ะ ปัจจุบันหนูมีความรู้สึกว่าหนูถ่ายเท่าไรก็ถ่ายไม่ออก จนต้องใช้มือล้วงก้นแล้วเบ่งถึงจะออกแต่ยังเป็นลูกกระสุนอยู่ถ้าไม่ใช้มือล้วงก็ไม่ออก หนูออกกำลังกายเป็นเวลา จะ 2 ปีแล้ว วิ่ง เวท คาร์ดิโอ้ กินน้ำมากกว่าปกติ อาหารการกินหนูก็เลือกกิน แต่ชอบมีอาการท้องอืดประจำค่ะ ผายลมมีกลิ่น ต้องกิน แอร์เอ็กซ์ หรือยาช่วยย่อยจะดีขึ้น หนูอยากมราบว่าหนูมีอาการเข้าข่ายเป็นโรคอะไรบ้างค่ะ เคยเข้ารับการตรวจโรคลำไส้แปรปรวนที่โรงพยาบาลศิริราชค่ะ รบกวนคุณหมอช่วยตอบหน่อยค่ะ |
|
อายุ: 25 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 50 กก. ส่วนสูง: 155ซม. ดัชนีมวลกาย : 20.81 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
พญ.กิติพร กวียานนท์แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว/เวชศาสตร์ทั่วไป |
15 กันยายน 2560 09:10:57 #2 จากอาการที่ปรึกษาเบื้องต้น น่าจะมีอาการท้องผูก ท้องผูก (Constipation) เป็นอาการ ไม่ใช่โรค ได้แก่ อาการไม่ถ่ายอุจจาระตามปกติ ซึ่งโดยคำนิยามทางการแพทย์ ท้องผูก หมายถึงความผิดปกติทั้งจำนวนครั้งของการถ่ายอุจจาระ ซึ่งต้องน้อยกว่า 3 ครั้งต่อสัปดาห์ ลักษณะของอุจจาระต้องแห้ง แข็ง การขับถ่ายต้องใช้แรงเบ่งหรือใช้มือช่วยล้วง และภายหลังอุจจาระแล้วยังมีความรู้สึกว่าอุจจาระไม่สุด ท้องผูกเกิดได้จากหลายสาเหตุ ที่พบบ่อยคือ
แนวทางการรักษาอาการท้องผูกที่สำคัญคือ การเพิ่มมวลอุจจาระและทำให้อุจจาระอ่อนนุ่มเคลื่อนที่ได้ง่าย ซึ่งคือ การกินอาหารมีใยอาหารสูง (ผัก ผลไม้ ธัญพืช ถั่วต่างๆ) และดื่มน้ำสะ อาดวันละมากๆเมื่อไม่มีโรคต้องจำกัดน้ำดื่ม (เช่น โรคหัวใจล้มเหลว) อย่างน้อยวันละ 8 - 10 แก้ว และเคลื่อนไหวร่างกายออกกำลังกายเสมอ ถ้าอาการท้องผูกยังคงมีอยู่ไม่ดีขึ้นหลังปรับเปลี่ยนอาหาร ดื่มน้ำ และเพิ่มการเคลื่อนไหวร่างกาย อาจใช้ยาแก้ท้องผูกโดยปรึกษาเภสัชกรก่อนเสมอ ถ้าซื้อยากินเอง เมื่อใช้ยาแก้ท้องผูกนานเกิน 5 - 7 วันแล้วอาการไม่ดีขึ้น ควรพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุ เพราะการใช้ยาแก้ท้องผูกบ่อยๆจะยิ่งกลับมาท้องผูกมากขึ้นและต้องเพิ่มปริมาณใช้ยามากขึ้นจนอาจก่ออันตรายได้ เช่น คลื่นไส้ อาเจียน มวนท้อง ปวดท้อง นอกจากนั้นคือ การรักษาโรคที่เป็นสาเหตุ เช่น รักษาโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ เมื่อเป็นสาเหตุของท้องผูก เป็นต้น โดยทั่วไปไม่มีผลข้างเคียงที่รุนแรงจากอาการท้องผูก นอกจากความไม่สุขสบาย นอกจาก นั้นคือ เกิดโรคริดสีดวงทวารจากการเบ่งอุจจาระเป็นประจำ และ/หรืออาจเกิดแผลแตกรอบๆทวารหนัก (แผลรอยแยกขอบทวารหนัก) จากก้อนอุจจาระที่แข็งกดครูด แต่ในบางครั้งเมื่อท้องผูกเรื้อรังมากจนก้อนอุจจาระแข็งมาก อาจก่ออาการลำไส้อุดตันได้ (ปวดท้องมาก รุนแรง อาเจียนมาก ไม่ผายลม) ซึ่งเป็นอาการที่ควรต้องพบแพทย์ฉุกเฉิน โดยทั่วไปอาการท้องผูกไม่รุนแรง เมื่อปรับพฤติกรรมการกิน/ดื่มน้ำและเคลื่อนไหวออกกำ ลังกายเพิ่มขึ้น อาการท้องผูกจะหายไปเอง แต่ทั้งนี้ขึ้นกับสาเหตุด้วย ดังนั้น เมื่อเกิดอาการท้อง ผูกโดยไม่เคยเป็นมาก่อนและอาการไม่ดีขึ้นหลังดูแลตนเองภายใน 1 - 2 สัปดาห์ ควรพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุ แต่เมื่อใช้ยาแก้ท้องผูกแล้วอาการไม่ดีขึ้น ควรพบแพทย์ภายใน 5 - 7 วันหลังใช้ยาเพื่อหาสาเหตุ และเพื่อป้องกันผลข้างเคียงจากยาแก้ท้องผูกถ้าใช้ยานานกว่านี้ดังกล่าวแล้ว การดูแลตนเองเมื่อท้องผูก เช่นเดียวกับการป้องกันท้องผูกคือ
|
Anonymous