กระดานสุขภาพ
รบกวนคุณหมอช่วยอ่านผลตรวจหน่อยครับ | |
---|---|
7 มีนาคม 2560 04:42:35 #1 รบกวนคุณหมอช่วยอ่านผลตรวจหน่อยครับ ทำไมสอง รพ ค่าของการตรวจไม่เท่ากัน 70-110 -70-99 ผมตรวจห่างกันสองเดือน และ ผลตรวจเป็นอย่างไรบ้างต้องระวังยังไง และทานอะไรและห้ามอะไรบ้างครับ ผมจะเป็นเบาหวานไหมครับ http://haamor.com/media/images/webboardpics/chaisert-35433-1.jpg http://haamor.com/media/images/webboardpics/chaisert-35433-2.jpg |
|
อายุ: 50 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 69 กก. ส่วนสูง: 171ซม. ดัชนีมวลกาย : 23.60 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
Chai*****t |
8 มีนาคม 2560 09:40:17 #2 ใบตรวจ-70-99 ตรวจที่หลังครับ ไม่ทราบผลออกมาแบบนี้ มันดีกว่าใบ 70-110 ไหมครับ หรือแย่กว่าเก่าครับขอบคุณครับ |
พญ.กิติพร กวียานนท์แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว/เวชศาสตร์ทั่วไป |
15 มีนาคม 2560 04:31:03 #3 เบาหวาน (Diabetes mellitus หรือ Diabetes หรือเรียกย่อว่า โรคดีเอ็ม, DM) เป็นโรคเรื้อรังที่รักษาไม่หาย ต้องได้รับการดูแลรักษาตลอดชีวิต ทั้งนี้เกิดจากการที่ในเลือดมีน้ำตาลสูงกว่าปกติ โดยทั่วไป แบ่งเบาหวานได้เป็น 3 ชนิดหลัก คือ เบาหวานชนิด 1 (Diabetes mellitus type 1), เบาหวานชนิด 2 (Diabetes mellitus type 2) และเบาหวานในหญิงตั้งครรภ์ (Ges tational diabetes mellitus) เบาหวานชนิด 2 เป็นเบาหวานที่มักพบในผู้ใหญ่อายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไป โดยเฉพาะในคนอ้วน ดังนั้น จึงเรียกอีกชื่อว่า เบาหวานในผู้ใหญ่ (Adult onset diabetes mellitus) และเป็นเบาหวานที่ไม่จำเป็นต้องพึ่งอินซูลิน (Non- insulin-dependent diabetes mellitus) ซึ่งเบา หวานชนิดนี้พบได้สูงที่สุดประมาณ 90 - 95% ของโรคเบาหวานทั้งหมด ดังนั้น โดยทั่วไป เมื่อกล่าวถึงโรคเบาหวาน จึงมักหมายถึงโรคเบาหวานชนิดนี้ (อ่านเพิ่มเติมในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง รู้ทันเบาหวาน) เบาหวานในหญิงตั้งครรภ์ พบได้ประมาณ 2 - 5% ของเบาหวานทั้งหมด กล่าวคือ เป็นโรคเบาหวานที่เกิดขึ้นเฉพาะในช่วงตั้งครรภ์เท่า ปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวาน ได้แก่
เบาหวานมีอาการอย่างไร? อาการหลักสำคัญของเบาหวาน คือ หิวบ่อย กระหายน้ำ และปัสสาวะปริมาณมากและบ่อย นอกจากนั้น เช่น
แพทย์วินิจฉัยเบาหวานได้อย่างไร? แพทย์วินิจฉัยโรคเบาหวานได้จาก ประวัติอาการ ประวัติการเจ็บป่วยต่างๆ ประวัติการเจ็บ ป่วยของคนในครอบครัว การตรวจร่างกาย และที่สำคัญคือ การตรวจเลือดเพื่อดูปริมาณน้ำตาลในเลือด และ/หรือ ดูสารที่เรียกว่า ฮีโมโกลบินเอวันซี (HbA1C: Glycated hemoglobin) ค่าปกติของน้ำตาลในเลือดหลังจากอดอาหารอย่างน้อยประมาณ 8 ชั่วโมง (Fasting Blood Sugar หรือเรียกย่อว่า FBS) คือ น้อยกว่า 110 มิลลิกรัม/เดซิลิตร (มก./ดล.) หรือถ้าตรวจเลือดที่ 2 ชั่วโมงหลังแพทย์ให้กินน้ำตาลประมาณ 75 กรัม (Glucose tolerance Test หรือเรียกย่อว่า จีทีที/ GTT) ค่าน้ำตาลในเลือดน้อยกว่า 140 มก./ดล หรือค่า HbA1C น้อยกว่า 6.5% เบาหวาน คือ ค่าน้ำตาลในเลือดหลังอดอาหารสูงตั้งแต่ 126 มก./ดล. ขึ้นไป และ/หรือ ค่าจีทีที สูงตั้งแต่ 200 มก./ดล. ขึ้นไป หรือค่า HbA1C มากกว่าหรือเท่ากับ 6.5% อาจมีการตรวจอื่นๆประกอบด้วย เช่น การตรวจปัสสาวะดูน้ำตาลในปัสสาวะซึ่งจะไม่พบในคนปกติ นอกจากนั้น คือ การตรวจเลือดเพื่อดูการทำงานของไต เพราะเบาหวานมักส่งผลต่อการเกิดโรคไตเรื้อรัง และการตรวจสุขภาพตาโดยจักษุแพทย์ เพื่อเฝ้าระวังผลข้างเคียงของเบา หวานต่อจอตา หรือที่เรียกว่า เบาหวานขึ้นตา ดังนั้นจากผลที่ตรวจมาทั้ง2ครั้ง ค่าระดับน้ำตาลในเลือด น้อยกว่า 126 มก/ดล. คือ คุณไม่ได้เป็นโรคเบาหวานค่ะ ในส่วนของช่วงค่าปกติในแต่ละรพ.จะมีความแตกต่างกันค่ะ ไม่ได้บอกว่าค่าใดดีกว่าค่าใด เพราะการวินิจฉัยเบาหวาน จะวินิจฉัยตามข้อมูลที่ให้ไปเบื้องต้นค่ะ |
Chai*****t