การกินผลไม้ทั่วไปร่างกายจะย่อยและเปลี่ยนเป็นกลูโคสได้ใน 30-60 นาที แต่ทุเรียนเป็นผลไม้กลุ่มที่มีไขมันสูงเมื่อกินแล้วร่างกายจะย่อยได้หมดในเวลา 3-3 1/2 ชั่วโมง (อาจแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับปริมาณที่กิน ถ้ามีอาหารอื่นกินร่วมด้วย หรือถ้ามีปัญหาระบบการย่อยอยู่เดิม ) ดังนั้นถ้าจะดื่มเบียร์และไม่ต้องการให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์ก็ควรให้ห่างออกไป 3-4 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย

มีข้อแนะนำว่าไม่ควรกินทุเรียนกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากจะเกิดผลเสียกับร่างกายได้ ซึ่งถ้าพิจารณาจาก
เมื่อดื่มแอลกอฮอล์ร่างกายจะมีกระบวนการทำลายแอลกอฮอล์โดยเปลี่ยนให้เป็นสารอะเซตาดีไฮด์และอะซิเตต
โดยใช้เอนไซม์อัลกอฮอล์ดีไฮโดรจีเนส (Alcohol dehydrogenase, ADH) และแอลดีไฮดีไฮโดรจีเนส (Aldehyde dehydrogenase,ALDH) จากนั้นอะซีเตตก็จะกลายเป็นน้ำและกาซคาร์บอนไดออกไซด์และถูกขับออกจากร่างกาย เมื่อกินทุเรียน เนื้อทุเรียนมีพลังงานและไขมันสูง และมีสารหอมระเหยหลายชนิดได้แก่ เอสเทอร์ คีโตนและสารประกอบซัลเฟอร์หรือกำมะถันตามธรรมชาติในปริมาณมาก

มีข้อมูลทางการวิจัยพบว่า สารประกอบซัลเฟอร์(กำมะถัน) ที่มีปริมาณมากในทุเรียนสามารถยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ ALDH ทำให้การทำลายแอลกอฮอล์ไม่สมบูรณ์ทำให้เกิดการคั่งของสารอะเซตาดีไฮด์ก่อให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์เช่น หน้าแดง ชา เหงื่อออก คลื่นไส้อาเจียนได้ ในรายที่มีอาการรุนแรงอาจทำให้เกิดภาวะการหายใจลำบาก หมดสติและอาจอันตรายถึงชีวิตได้ และได้มีการศึกษาระยะเวลาห่างของเวลาหลังกินเหล้าแล้วกินทุเรียนตามโดยเว้นระยะห่างของเวลาเป็น 30,60,90,120,150 และ 180 นาทีพบว่า การเว้นระยะห่างของเวลาหลังจากกินเหล้าแล้วไปกินทุเรียนเป็นเวลา 150 และ 180 นาทีทำให้สัตว์ทดลองไม่ตาย

จากการสืบสวนทางการแพทย์ของความเท็จจริงที่ว่าทำไมไม่ควรกินทุเรียนกับแอลกอฮอล์ยังไม่สามารถที่จะสรุปได้อย่างเป็นที่แน่นอน แต่จากที่ผู้กินมักจะ “รู้สึกไม่สบาย” เมื่อดื่มเหล้าหลังกินทุเรียนเสร็จใหม่ๆ ก็น่าจะเป็นข้อเตือนใจนักดื่มไม่ควรกินทุเรียนและอัลกอฮอล์ในเวลาเดียวกันหรือใกล้เคียงกันมากเกินไป