ตาบอดสีชนิดแต่กำเหนิดเกิดจากมีความผิดปกติในระดับgene/จีน/ยีน ที่ถ่ายทอดมาจากมารดาที่เป็นพาหะของโรค กล่าวคือมารดาเป็นพาหะนำความที่ตาบอดสีไปยังลูกชายโดยที่ตัวเองไม่เป็นโรค. จึงยังไม่มีวิธีรักษาค่ะ พบได้ 8%ในชาย อาจแบ่งเป็น 2 ประเภทคือบอดรุนแรงและไม่รุนแรง ถ้าชนิดไม่รุนแรงอาจไม่ค่อยมีปัญหาในการประกอบวิชาชีพ ถ้าขั้นรุนแรงมีปัญหาในบางอาชีพที่ต้องแยกสี เช่น ทหาร ตำรวจ วิศวกรไฟฟ้า เภสัชกร จนท เทคนิคการแพทย์ เท่าที่ทราบในปัจจุบันคณะแพทย์สถาบันต่างๆจะไม่รับนักศึกษาที่บอดสีขั้นรุนแรงค่ะ แม้ใบขับขี่ยังไม่แน่ใจว่าเปลี่ยนกฏเกณฑ์ มาให้ใบขับขี่หรือยัง

การรักษาให้เห็นสีเหมือนคนปกติไม่ได้ แต่ในบางกรณีใช้แว่นสีช่วยให้แยกสีได้ดีขึ้น แต่คงไม่เหมาะที่จะใช้ในชีวิตประจำวันค่ะ แนะนำอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมในเว็บhaamor.com บทความเรื่อง ตาบอดสี คะ

พญ. สกาวรัตน์

 ถ้าเป็นสีโดดๆเลย เค้ารู้นะคะ ลองให้เขาบอกสี เขาก็ตอบถูก แต่ถ้าเป็นพวกจุดๆนี่เค้าดูแทบไม่ออกเลย แย่จัง

นั่นแหละคะ เป็นลักษณะของคนบอดสีแต่กำเหนิด ที่ฝรั่งบอกว่า name the color correctly ซึ่งหมายความว่าเอาสีอะไรมาวางโดดๆเขาจะตอบได้ถูก แต่ถ้าเอาสีต่างๆไปปนกันเขาจะแยกไม่ออก ที่เป็นอย่างนี้ ยกตัวอย่างคนบอดสีแดง เขาเห็นของสีแดงไม่เหมือนกับคนปกติคืออาจเห็นเป็นสีเทาๆ แต่เขาเห็นอย่างนั้นตั้งแต่เกิด และถูกสอนว่าสีที่เขาเห็นเรียกว่าสีแดง นั่นเองทำให้เขาบอกสีได้ชื่อที่ถูกต้อง ซึ่งทำให้หลายๆคนที่เมื่อรับการตรวจว่าบอดสีแดง เขาจะไม่ยอมรับเพราะเขาก็เห็นและบอกได้ว่าเป็นสีแดง. อธิบายอย่างนี้คิดว่าคงทำให้เข้าใจมากขึ้นนะคะ

พญ. สกาวรัตน์

พอดีผมอ่านเจอที่คุณหมอพูดไว้ตามลิ้งค์ http://haamor.com/th/%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B8%B5/ นี้ว่า

อย่างไรก็ตาม การใช้แว่นกรองแสงบางสี ไม่ได้ทำให้คนตาบอดสีนั้นๆ เห็นสีเหมือนคนปกติ เพียงแต่ช่วยให้เขาแยกสีได้ดีขึ้นขณะใช้แว่นกรองแสงบางสีเท่านั้น

คือเราจะหาแว่นตากรองแสงที่ว่านี้ได้จากที่ไหนครับ ผมพยายามหาข้อมูลแล้ว แต่ไม่เจอเลย รบกวนคุณหมอด้วยนะครับ เพราะผมไปตรวจตาบอดสีที่หมอเขาให้เรียงระดับสีแล้วผลออกมาก็บอดจริงๆ แต่ไม่รู้ระดับไหนและบอดสีอะไร แต่ก็ยังเก็บผลตรวจไว้อยู่
ตามปกติแล้วสีก็พอเห็นอยู่บอกได้อยู่ว่าเป็นสีอะไร แต่สีที่ก้ำกึ่งหรือสีอยู่ด้วยกันจะสับสนบางสี
ผมกังวลว่าอาจมีปัญหาในการเรียนจึงอยากมาขอคำปรึกษาจากคุณหมอครับ