กระดานสุขภาพ
ตากุ้งยิง .. | |
---|---|
23 ตุลาคม 2555 03:46:20 #1 ผมเป็น ตากุ้งยิง มานานร่วมเดือนแล้วครับ ... ทานยาฆ่าเชื้อ (แคปซูล) และหยอดตา Cravit เป็น ๆ หาย ๆ มาตลอด แต่ล่าสุด ยังไม่หายครับ เคยไปหาหมอที่เปาโล หมอบอกว่าผมเป็นภูมิแพ้ที่ตา เพราะเปลือกตาด้านในเป็นรอย (ผ่านการใส่คอนแทกเลนส์) อยากรบกวนถามคุณหมอว่า จะรักษาอยย่างไร ให้หาย โดยที่ไม่ต้องผ่าครับ ขอบคุณมากครับ |
|
อายุ: 38 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 58 กก. ดัชนีมวลกาย : 0.00 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
ศาสตราจารย์เกียรติคุณ พญ. สกาวรัตน์ คุณาวิศรุต(แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านจักษุวิทยา) |
23 ตุลาคม 2555 13:29:03 #2 ที่บอกว่าไม่หายเป็นมาตั้งเดือน (ปกติควรจะดีขึ้น หรือ หายภายใน 2-3 สัปดาห์) เป็นนานขนาดนั้นโดยเฉพาะเมื่อยังมีอาการเจ็บร่วมอยู่ด้วย น่าจะกรีด/ผ่า/เจาะออกจะได้หาย (อย่าทำเองเป็นอันขาด) ให้จักษุแพทย์กรีดให้ โดยจะเป็นแผลเล็กมาก ไม่น่ากลัวคะ เพื่อเอาหนองที่ขังอยู่ออก จะช่วยให้หายไวขึ้น
ถ้ายังไม่อยากกรีดออก ลองใช้น้ำอุ่นประคบ (ใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กๆ ชุบน้ำอุ่น แล้วบิดให้แห้ง วางกดบนตัวกุ้งยิง ปิดตาเสมอเวลาประคบ) ระวังอย่าให้อุ่นจัดเพราะจะทำให้หนังตาไหม้ได้ ประคบนานครั้งละประมาณ 5-10 นาที ทำทุก 6-8 ชั่วโมงจนกว่าตากุ้งยิงจะยุบหายไป เพราะความอุ่นจะช่วยละลายไขมันที่ก่อให้เกิดการอุดตันของหนอง เมื่อไขมันละลาย หนองจึงไหลออกมาได้ง่ายขึ้น
นอกจากนั้น ต้องรักษาความสะอาดขอบหนังตา และโคนขนตา เพราะเป็นแหล่งเชื้อโรค โดยเช็ดขอบตาด้วยผ้านุ่มสะอาดชุบน้ำสะอาดหมาดๆ อย่าให้มีขี้ตาเกรอะกรัง และช่วยเสริมภูมิคุ้มกันต้นทานโรคของร่างกาย เพราะตากุ้งยิงมักพบเกิดช่วงร่างกายมีภูมิคุ้มกันต้านทานโรคต่ำ โดยทำร่างกายให้แข็งแรง เช่น กินอาหารมีประโยชน์ 5 หมู่ให้ครบถ้วนในทุกวัน ร่วมกับการพักผ่อนให้เพียงพอ และออกกำลังกายสม่ำเสมอ โรคอาจหายไปได้ ถ้าไม่หายและยังเป็นไตอยู่ น่าจะพบจักษุแพทย์เพื่อกรีด/เจาะ/ผ่าออกไปเลยจะดีกว่าค่ะ
ต่อไปเมื่อรักษาได้หายแล้ว ก็ต้องรักษาความสะอาดขอบตาและโคนขนตาเสมอ อย่าขยี้ตา หลีกเลี่ยงฝุ่นละออง และต้องรักษาสุขภาพให้แข็งแรง พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่เช่นนั้นก็จะเกิดเป็นได้อีกค่ะ
พญ. สกาวรัตน์ |
Tang*****e |
23 ตุลาคม 2555 14:04:31 #3 ขอบคุณคุณหมอมากครับ ... จะปฏิบัติตามที่คุณหมอแนะนำ ถ้าได้เรื่องยังงัย จะมาแจ้งผลอีกครั้งครับ |
Tang*****e