กระดานสุขภาพ

หลังมีเพศสัมพันธุ์พบว่าปลายอวัยวะเพศมีตุ่มแดงๆและมีอาการแสบ จะเป็นอันตรายไหม
Anonymous

4 กันยายน 2559 10:02:54 #1

หลังจากที่มีเพสสัมพันธุ์กับแฟน แล้วไปอาบน้ำตามปกติ สังเกตุเห็นว่าที่ปลายอวัยวะเพศเหมือนมีตุ่มแดงขึ้น แล้วมีอาการแสบ คือมีอาการทันทีหลังการมีเพศสัมพันธุ์ อยากทราบว่าเกิดจากอ่ะไร แล้วมีวิธีการรักษาไหมครับ แล้วมันอันตรายไหม คุณหมอรบกวนมาตอบด้วยนะครับ เป็นกังวลมากครับ ขอบคุณครับ

อายุ: 24 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 60 กก. ส่วนสูง: 168ซม. ดัชนีมวลกาย : 21.26 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

7 กันยายน 2559 03:54:22 #2

ถ้าทั้งตัวคุณและแฟน ต่างก็ไม่มีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ คือ ไม่ได้มีเพศสัมพันธุ์กับคนอื่นหรือมีก็ใช้ถุงยางทุกครั้ง อาการที่เล่ามาน่าจะเกิดจากการระคายเคืองสารที่มาสัมผัส เช่น สบู่ เจลอาบน้ำ น้ำยต่างๆที่ใช้บริเวณนี้ และอาจจะเกิดจากการเสียดสีขณะที่มีการร่วมเพศ ร่วมกับความอับชื้น จึงเป็นผื่นแดงๆและอาจมีเชื้อราร่วมด้วย แนะนำให้ทำความสะอาดด้วยสบู่อ่อนๆ เช่นสบู่เด็ก ล้างเบาๆแล้วซับให้แห้งด้วยผ้านุ่มๆ ทายาที่มีส่วนผสมของยาแก้แพ้ชนิด triamcinolone 0.02% + ยาเชื้อรา clotimazoleทาบางๆ เช้าและก่อนนอนหลังอาบน้ำ น่าจะดีขึ้นใน 5-7 วัน ในกรณีที่เป็นบ่อยอาจต้องระวังความอับชื้นและงดใช้สารที่สงสัยว่าจะแพ้และถ้าหนังหุ้มยาวเกินไปอาจต้องขลิบเพื่อให้ทำความสะอาดง่ายและไม่อับชื้น การขลิบหนังเป็นการทำศัลยกรรมที่ถือว่าไม่ซับซ้อน แพทย์ศัลยกรรมทั่วไปทำได้ครับ ต้องมีการฉีดยาชา ใช้เวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมงน่าจะเสร็จ ถ้ารักษาแผลให้ดี ประมาณ 2-4 อาทิตย์ แผลก็จะหายดี ส่วนแฟน ถ้ามีอาการตกขาว คันในช่องคลอด ก็อาจเป็นเชื้อราด้วย ในกรณีนี้แนะนำตรวจภายใน ถ้าเป็นเชื้อราก็รักษาโดยใช้ยากินหรือยาสอดช่องคลอด โดยสรุป น่าจะเกิดจากรแพ้ร่วมกับการเสียดสีจากการ่วมเพศ แนะนำหาหมอหรือส่งรูปถ่ายชัดๆบริเวณที่เป็นมาให้ดูเพิ่มเติมครับ