กระดานสุขภาพ

สอบถามเรื่องการกินยา provera 10 mg. ค่ะ
Anonymous

5 มีนาคม 2558 06:14:23 #1

รายละเอียดเบื้องต้นดังนี้ค่ะ

1. ปกติมีประจำเดือนมาทุกๆ28วัน สม่ำเสมอ และใช้วิธีการคุมกำเนิดด้วยการนับระยะปลอดภัยมาตลอด มีบุตร 1 คน ประจำเดือนมาประมาณ 4-6 วัน

2. เดือนตุลาคม มีประจำเดือนวันที่ 5-9 แต่มีเหตุจำเป็นที่ทำให้ต้องทานยาคุมฉุกเฉิน ในวันที่ 11 ตค.

3. เดือนพฤศจิกายน ประจำเดือนเริ่มไม่ปกติ คือเริ่มมาวันแรกวันที่ 14 พย. รวมจำนวนวันที่เป็นประมาณ 16 วัน (14-19 พย. มีค่อนข้างน้อยมาก แต่วันที่ 20-28 พย.มีปริมาณมาก 29-30 พย. น้อยลงจนหมดไป)

4.  เดือนธันวาคม ประจำเดือนมาวันที่ 31 ต่อเนืองไปถึงวันที่ 13-14 มค. ลักษณะเป็นแบบเดิม คือช่วงแรกๆมาน้อย และมากขึ้นหลังวันที่ 6-7

5. เดือนกุมภาพันธ์ ประจำเดือนมาวันที่ 9-23 กพ. ลักษณะเช่นเดิม  จึงตัดสินใจไปพบแแพทย์  และอธิบายข้อมูลต่างๆให้หมอฟัง  หมอจะให้ตรวจภายใน และขูดมดลูก สะกิดชิ้นเนื้อไปตรวจ  ยังไม่พร้อม จึงขอรับประทานยาเพื่อปรับฮอร์โมน (เช่นยาคุม) แต่หมอให้ยา provera 10mg. มา 10 เม็ด ให้กินตั้งแต่วันที่ 2 กพ. และบอกว่า หลังหยุดยา ปจด.จะมา 

 

จนวันนี้ดิฉันยังไม่ได้รับประทานยาดังกลาว เนื่องจากลังเลใจว่า ควรทานหรือไม่  ยิ่งอ่านข้อมูลในเนทมาก ยิ่งทำให้สับสน  เลยอยากสอบถามดังนี้ค่ะ

1. หากไม่รับประทานยาใดๆ  จะมีอันตรายหรือไม่ จากอาการ ปจด.ไม่ปกติแบบนี้ (ไม่มีอาการปวดท้องแต่อย่างใด)

2. จากเดิมที่เคยมี ปจด.มาปกติ  แต่เริ่มผิดปกติหลังจากการรับประทานยาคุมฉุกเฉิน  ร่างกายจะสามารถปรับกลับมาเป็นปกติดังเดิมได้หรือไม่คะ?

3. หากรับประทานยา provera นี้เข้าไปแล้ว เดือนถัดไป ยังต้องทานอีกหรือไม่  และ ปจด.จะมาหลังหยุดยาจริงๆใช่มั้ยคะ?  เนื่องจากวันที่ 25 มีนาคม จะต้องเดินทางไกล (ใจจริงอยากให้ ปจด.มาให้เสร็จๆ  เลยมีความคิดว่า หรือจะกินยาวันที่ 5 มีนา เพื่อให้ ปจด.มาซะเลย)

 

ขอบคุณมากค่ะ

อายุ: 39 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 64 กก. ส่วนสูง: 166ซม. ดัชนีมวลกาย : 23.23 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผล

เภสัชกร

8 มีนาคม 2558 14:38:20 #2

เรียน คุณ 6fde8,

คำถามของคุณตอบค่อนข้างยาก เนื่องจากไม่ทราบผลการตรวจร่างกาย แต่ขอตอบในภาพรวมนะครับ เหตุที่ทำให้ประจำเดือนมาผิดปกติ อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุประกอบกัน เช่น

  • การรับประทานยาคุมกำเนิดติดต่อกันเป็นเวลานาน (มักเกินกว่า 5 ปีขึ้นไป)
  • การรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน ซึ่งมีปริมาณฮอร์โมนค่อนข้างสูงมาก (1500 ไมโครกรัม เทียบกับ 50-75 ไมโครกรัมในยาคุมกำเนิดปกติ) มักทำให้ประจำเดือนมาคลาดเคลื่อนจากเดิมและมาแบบผิดปกติ (ทั้งในเรื่องปริมาณและระยะเวลาการมีประจำเดือน) ส่วนใหญ่ต้องใช้เวลา 2-3 เดือน จึงจะกลับสู่ภาวะปกติ
  • การที่อายุเริ่มมากขึ้น ส่วนใหญ่ใกล้อายุ 40 ปี จะเริ่มมีประจำเดือนมาไม่ปกติเหมือนเดิม เช่น อาจมาเป็น 2-3 เดือนครั้ง ประจำเดือนมากะปริบกะปรอย (ช่วงแรกมักเกิดจากระดับฮอร์โมนเพศไม่ค่อยคงที่ จึงทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกฉีกขาดก่อนกำหนด และเมื่อถึงกำหนดมีประจำเดือน จึงจะนับเป็นเลือดประจำเดือนจริง) และเมื่อเข้าสู่อายุ 40 ปี มักจะเข้าสู่ช่วงวัยทอง ประจำเดือนจะเว้นช่วงนานขึ้น เช่น 4-5 เดือนมาครั้ืง และสุดท้ายก็จะถึงวัยหมดประจำเดือนในที่สุด)

สรุปคำตอบ คือ

  1. หากคุณไม่รับประทานยาเพื่อปรับฮอร์โมนเพศ ประจำเดือนก็ไม่สามารถกำหนดช่วงได้ว่าจะมาเมื่อใด
  2. อาจเป็นไปได้ แต่แนวโน้มประจำเดือนจะมาช้าและปริมาณน้อยลง จนถึงวัยหมดประจำเดือน ตามช่วงอายุโดยทั่วไป (ประมาณ 40-45 ปี จะเข้าสู่วัยทอง)
  3. ส่วนใหญ่จะทดลองให้รับประทานยา 1-2 เดือนก่อนนะครับ และต้องมีการตรวจร่างกายเพิ่มเติม เช่นระดับฮอร์โมนเพศในเลือด หรืออาจต้องมีการตรวจอัลตร้าซาวนด์ เพื่อดูว่ามีก้อนเนื้ออุดตันบริเวณมดลูกหรือรังไข่หรือไม่ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์จะดีที่สุดครับ

ไม่ต้องกังวลการรับประทานยาเพื่อปรับฮอร์โมน เพราะจะเป็นการหลอกร่างกายว่ามีการหลั่งฮอร์โมนโปรเจสตินออกมา เมื่อหยุดยาจะคล้ายกับช่วงที่มีประจำเดือนตามธรรมชาติ เป็นการรักษาที่ใช้ติดต่อกันมาเป็นเวลาหลายสิบปี การรับประทานยาเป็นระยะเวลาสั้นๆ ไม่พบว่ามีรายงานการเกิดอันตรายจากการใช้ยารุนแรงนะครับ ส่วนใหญ่ที่พบจะมีการบวมน้ำ หรือ คลื่นไส้ อาเจียน เป็นต้น

 

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล

Anonymous

10 มีนาคม 2558 03:47:56 #3

ขอบคุณมากๆค่ะ