อาการปัสสาวะแสบและมีหนองเป็นอาการบ่งชี้ว่ามีการอักเสบของท่อปัสสาวะ ซึงถ้ามีพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ เช่นเที่ยวผู้หญิง มีคูนอนหลายคน หรือคู่นอนมีความเสี่ยง และไม่ใช้ถุงยางอนามัย ก็มีโอกาสที่จะเป็นโรคหนองในแท้หรือหนองในเทียม โรคหนองในเกิดจากเชื้อ แบคทีเรียที่เรียกว่า Neisseria gonorrhoeae ประมาณ 50% พบว่ามีการติดเชื้อหนองในเทียมร่วมด้วยซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อ Chlamydia trachomatis การรักษาต้องรักษาทั้ง 2 โรคไปพร้อมกัน ยาที่ดีที่สุดสำหรับโรคหนองใน คือ Ceftriaxone เป็นยาฉีดเข้ากล้ามเนื้อบริเวณสะโพก ขนาดที่ใช้คือ 250 มิลลิกรัม เข็มเดียวได้ผล 95-100 % สำหรับหนองในเทียมให้ใช้ doxycycline กินครั้งละ 100 มิลลิกรัม เช้า เย็น นาน 2 อาทิตย์ หรือ azithromycin ขนาด 250 มิลลิกรัม กินครั้งเดียว 4 เม็ด (1 กรัม) ต้องรักษาคู่นอนด้วย แต่ถ้าไม่มีความเสี่ยง หรือเคยแต่ใช้ถุงยางทุกครั้ง ก็อาจเป็นไปได้ว่ามีการอักเสบของกระเพาะปัสสาวะ หรือเป็นนิ่วในท่อปัสสาวะ ท่อไต แนะนำว่าคงต้องหาหมอศัลยกรรมระบบสืบพันธ์และทางเดินปัสสาวะเพื่อตรวจวินิจฉัยโรคและรักษาตามสาเหตุ

แต่หมอครับ เวลาผมฉีไม่มีหนองออกมาน่ะครับ แต่เจ็บตรงปลายอวัยวะเพศ อะครับ

คืออาทิตย์ที่แล้วผมมีเพศสัมพันธ์กับแฟนผม แต่ตอนนั้นเธอเป็นประจำเดือนด้วย อะครับ เกี่ยวกันไหม ครับ

ตามที่ได้คอบแล้ว ถ้ามีเพศสัมพันธ์กับแฟนคนเดียว โดยที่ทั้งตัวคุณและแฟนไม่มีความเสี่ยงทั้งคู่ (ไม่เคยร่วมเพศกับคนอื่น) ก็ไม่เป็นโรคติดต่อ อาจเป็นการอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียทั่วๆไป แต่ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีความเสี่ยง ก็อาจเป็นโรคหนองในหรือหนองในเทียม ถ้าไม่แน่ใจแนะนำหาหมอระบบทางเดินปัสสาวะ