กระดานสุขภาพ

สงสัยค่ะ
Anonymous

15 กันยายน 2557 09:27:05 #1

วันที่ 29 มีอะไรกับแฟน ใส่ถุงยาง แต่ใส่กลับด้านค่ะ จึงกลับมาใส่ด้านที่ถูกต้อง แต่กลัวท้องจึงทานยาคุมฉุกเฉิน หลังจากนั้น 1 สัปดาห์(5 กย.)มีเลือดออก 3-4 วันค่ะ คล้ายประจำเดือนมากๆ

และวันที่ 15 กย. ได้มีเลือดออกอีกครั้งแต่น้อย แต่ไม่รู้ว่าคือเลือดจากอะไร แต่โดยส่วนตัวคาดว่าเป็นเลือดจากประจำเดือน เพราะว่าเดือนสิงหาได่มีประจำเดือนวันที่ 18 สิงหา

อยากทราบว่าเลือดที่ออกมาวันที่ 15 คือเลือดอะไรคะ มีโอกาศท้องไหมคะ

อายุ: 18 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 45 กก. ส่วนสูง: 156ซม. ดัชนีมวลกาย : 18.49 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

16 กันยายน 2557 11:04:31 #2

หากในการมีเพศสัมพันธ์แล้วใช้ถุงยางอนามัยแล้วมีปัญหา การใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉินก็ถือว่าเป็นวิธีที่ดีในการป้องกันการตั้งครรภ์หลังจากมีเพศสัมพันธ์แล้ว ซึ่งในยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉิน จะมีตัวยาที่เป็นฮอร์โมน ซึ่งมีกลไกการป้องกันการตั้งครรภ์ต่างๆ ทำให้ยับยั้งการตกไข่ ผลทำให้ไม่มีการตกไข่ หรือ ตกช้าออกไป ทำให้ประจำเดือนรอบนั้น อาจเลื่อนออกไป หรือ กะปริดกะปรอยได้ และมีผลทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกไม่พร้อมในการฝังตัว อาจส่งผลให้มีเลือดออกมาจากช่องคลอดได้หลังทาน 3-7 วันครับ แต่เลือดที่อาจออกมานี้อาจมีหรือไม่มีก็ได้นะครับ และ การที่มีหรือไม่ก็ไม่ได้แสดงถึงประสิทธิภาพว่าจะป้องกันได้หรือไม่ หรือ เป็นอาการแสดงการตั้งครรภ์แต่อย่างใดครับ ซึ่งการทานยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉินก็พอจะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์หลังการมีเพศสัมพันธ์ได้ครับ ซึ่งจะมีประสิทธิภาพประมาณ 89 - 92 % ครับ หรือหากจะเข้าใจง่ายๆ คือ ทานยานี้ 10 คน จะสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 9 คนครับ อย่างไรก็ตามก็ควรตรวจการตั้งครรภ์ด้ยนะครับ ซึ่งการตรวจการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะนั้น ควรตรวจในช่วงที่ประจำเดือนไม่มาหรือขาดหายไปประมาณ 1 สัปดาห์ ผลที่ได้จะน่าเชื่อถือครับ การตรวจก่อนหน้านี้ ไม่สามารถบอกได้นะครับ

ดังนั้น เลือดที่ออกมานั้น น่าจะเป็นผลจากยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉินครับ แม้โอกาสของการตั้งครรภ์จะน้อยแต่ก็ควรตรวจการตั้งครรภ์ตามที่หมอกล่าวไปด้วยครับ