เรียน คุณ a7a47,

การรับประทานยาฉุกเฉินซึ่งมีปริมาณฮอร์โมนสูง ทำให้ช่วยคุมกำเนิด โดยมีกลไกหลัก ๆคือ

1. ทำให้มูกที่ปากช่องคลอดข้นเหนียว จนตัวอสุจิผ่านเข้าไปได้ยาก

2. ทำให้ท่อนำไข่บีบตัวช้าลง เพื่อลดโอกาสที่ไข่กับอสุจิจะมาผสมกัน

3. ทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัว จนเกินกว่าตัวอ่อน (หากเกิดการผสมระหว่างไข่กับอสุจิ) จะมาฝังตัวและเจริญต่อไปได้

ดังนั้น จึงเป็นไปได้ที่จะทำให้ประจำเดือนมาช้ากว่าปกติ (เยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัว จนอาจฉีกขาดล่าช้า) หรือเลือดออกมากคล้ายกับประจำเดือน จึงน่าจะเข้ากันได้กับกรณีของคุณ แต่หากเลือดยังคงออกมากเกินกว่า 7 วัน แนะนำให้พบแพทย์เพื่อรักษาต่อไป

การรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน ไม่แนะนำให้รับประทานเกินกว่า 2 ครั้งต่อเดือน เนื่องจากอาจทำให้เกิดการตั้งครรภ์นอกมดลูก เสี่ยงต่อการฉีกขาดของท่อนำไข่ ตกเลือดในช่องท้องจนเสียชีวิตได้ หรือถ้ารับประทานยาเกินกว่า 3 ครั้ง ตลอดชีวิต จะเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งต่ออวัยวะต่าง ๆเช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งมดลูกหรือรังไข่ รวมถึงมะเร็งตับ สูงหลายเท่ามากกว่าสตรีที่ไม่เคยได้รับยาคุมกำเนิดฉุกเฉินมาก่อน

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล

แนะนำบทความดี ๆจากกองบรรณาธิการของเราที่

ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน (Emergency contraceptive pill)

โดย รศ.ดร.นพ.บัณฑิต ชุมวรฐายี ภาควิชาสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น