ถึง คุณ dome.peerapong

คำถามทุกคำถาม ขอความกรุณาไม่ลงชื่อ บุคคลที่ 3 หรือชื่อโรงพยาบาลนะคะ เพราะการกล่าวถึงบุคคลที่ 3 เป็นการขัดต่อคำแนะนำของแพทยสภาคะ ซึ่งทาง Admin ได้ส่งเนื้อหาทั้งหมดของคำถามให้ทางคุณหมอเรียบร้อยแล้วนะคะ ดังนั้น คุณ dome.peerapong ยังสามารถติดตามคำตอบของคุณหมอได้เช่นเดิมคะ

การตรวจพบตอนอายุ 12 ปี อาจถือว่าช้าไปหน่อยในการจะรักษาภาวะตาขี้เกียจ ภาวะตาขี้เกียจในกรนีนี้น่าจะเกิดจากสายตาที่แตกต่างกันในตาสองข้างโดยเฉพาะข้างหนึ่วปกติและอีกข้างเป็นสายตายาว เอียง ความที่สายตาต่างกันสมองจะเลือกใช้ตาดีโดยละเลยไม่รับรู้การเห็นของตาไม่ดี เนื่องจากภาพจากตาไม่ดีมัวมาก นานเข้าตาที่ไม่ดีก็เลยกลายเป็นตาขี้เกียจคือตรวจไม่พบความผิดปกติอะไรหรือพบและแก้ไขแล้วก็ยังไม่ยอมเห็น. ในกรณีนี้เข้าใจว่าตอนอายุ 12 ลองแก้ไขสายตาโดยแว่นตา แก้ทั้งตายาว เอียง สายตาก็คงไม่ดี หมอเลยวินิจฉัยว่าตานี้คงเป็นตาขี้เกียจแล้ว
อย่างไรก็ตาม ภาวะตาขี้เกียจส่วนใหญ่ควรรักษาตอนอายุยังน้อย ต่ำกว่า10 ปี หรือยิ่งอายุน้อยยิ่งได้ผล อายุมากอาจไม่ได้ผล

แต่จากประสบการณ์ ตาขี้เกียจจากสายตาผิดปกติแม้พบอายุมากหน่อย ก็ยังมีโอกาสอยู่บ้างคือ อาจดีขึ้นมาบ้าง ในกรนีนี้วิธีรักษาที่ควรก็คือแก้สายตาที่ผิดปกติด้วยแว่นตา หรือคอนแทคเลนส์ ถ้าเด็กโตพอที่จะใส่ได้ ขอแนะนำว่าน่าจะลองแว่นตาแก้ไขสายตาเท่าที่เด็กใส่ได้โดยเลนส์ทดลอง ถ้ามึนงงจากใส่แว่น อาจไม่ต้องแก้หมดแต่ขอให้มีการแก้บ้าง ถ้าไม่แก้เลยภาพจะมัวมาก แก้บ้างก็ยังพอเห็น ถ้าใส่แว่นแล้วตายังพอเห็นดีขึ้น ก็ปิดตาดีบ้างเป็นครั้งคราว เช่น ในวันหยุด เพื่อบังคับตาไม่ดีให้ทำงานบ้าง แต่ต้องแก้ไขสายตาดีด้วยแว่นนะคะ

เรื่องเลสิคถ้าเป็นตาขี้เกียจแล้วทำเลสิค สายตาคงดีกว่าเดิมไม่มากค่ะ
คงมีข้อปลีกย่อยอีก อยากให้พาเด็กกลับไปพบหมอตา/จักษุแพทย์ ปรึกษาขอวัดสายตาใหม่ และขอคำปรึกษาในรายละเอียดการรักษาอีกทีนะคะ แพทย์ที่ตรวจ จะให้คำปรึกษาได้ดีและเหมาะสมกว่าแพทย์ทางเว็บ เพราะมีข้อมูลที่ได้จากการตรวจเด็กโดยตรง

พญ. สกาวรัตน์