ต่อมทอนซิลโตไม่มียารับประทานให้ยุบหรอกครับ ถ้าไม่มีการอักเสบเจ็บคอบ่อยๆหรืออุดคอทำให้หายใจไม่สะดวกนอนกรนมาก ก็ไม่จำเป็นต้องทำอะไรครับ

ค่า SGPT เป็นค่า เอนไซม์ตัวหนึ่ง ที่ในการแปลผล ต้องใช้ค่าการตรวจเลือดอื่นๆร่วมด้วย
แพทย์ไม่สามารถวินิจฉัยโรคได้จาก SGPT เพียงค่าเดียวคะ เพราะค่านี้ไม่เฉพาะเจาะจงสำหรับโรคใดโรคหนึ่ง และอาจเกิดจากผลข้างเคียงจากยาทั่วไป วิตามิน หรือ สมุนไพร หรือ อาหารเสริม หรือการใช้แรงที่หักโหมได้ บางคนในคนอ้วนก็พบเอนไซม์ตัวนี้สูงได้

ดังนั้น คุณควรพบแพทย์พร้อมนำผลตรวจทั้งหมดไปปรึกษาแพทย์ จะได้คำตอบที่ถูกต้อง ส่วนการดูแลตนเองเมื่อมีค่านี้สูงในเบื้องต้นที่ยังไม่ได้พบแพทย์ คือ พักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำมากๆ (ถ้าไม่มีโรคต้อ จำกัดน้ำดื่ม) และดูว่าใช้ยา หรือ อาหารเสริมอะไรอยู่ สิ่งเหล่านั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นหรือไม่ ถ้าไม่จำเป็นก็ควรเลิกบริโภค แต่ใช้การบริโภคอาหารมีประโยชน์ 5 หมู่ให้ครบถ้วนในทุกวัน โดยควบคุมน้ำหนักไม่ให้อ้วน (ค่าดัชนีมวลกายคุณ จัดอยู่ในกลุ่ม อ้วน) โดยจำกัดอาหารไขมัน แป้ง น้ำตาล เค็ม แต่เพิ่ม ผัก และผลไม้ที่ไม่หวานจัด ส่วนเมื่อพบแพทย์แล้ว ก็ดูแลตนเองตามแพทย์ที่ตรวจแนะนำคะ

พญ. พวงทอง ไกรพิบูลย์

ขอขอบคุณ คุณหมอทั้ง 2 ท่านด้วยนะครับผม ที่ช่วยตอบกระทู้ผมครับ

ขอสอบถามเพิ่มเติมนะครับผม ค่า SGPT

คือว่าผมพยายามเลิกกาแฟครับ เวลาปวดหัวก็จะทานยา *** หรือไม่ก็พาราเซตามอน ยาสองตัวนี้มีผลทำให้ค่า SGPT สูงขึ้นไหมครับ

เรียน คุณ Boon31,

จากข้อมูลที่คุณให้มาเพิ่มเติม การเลิกดื่มกาแฟ อาจทำให้หลอดเลือดในสมองขยายตัวได้ครับ ทำให้มักมีอาการปวดศีรษะในช่วงแรกที่เลิกดื่มกาแฟ

ดังนั้น จึงไม่ควรงดดื่มทันที ให้ค่อย ๆปรับลดปริมาณที่ได้รับต่อวันลง เช่น ปกติดื่มวันละ 2 แก้ว ๆละ 2 ช้อนชา ก็ให้ปรับลดลงทีละครึ่ง เป็น วันละ 2 แก้ว ๆละ 1 ช้อนชาพอ หรือหากปกติบ่ายไม่ค่อยง่วง ก็อาจดื่มเฉพาะมื้อเช้าแทน ค่อย ๆปรับตัวไปทีละสัปดาห์นะครับ เมื่อรู้สึกไม่ค่อยง่วงหรือไม่ค่อยปวดหัวแล้ว ก็ปรับลดลงอีกครึ่ง ทุกสัปดาห์ จนสามารถเลิกดื่มไปได้

ทั้งนี้ ควรงดเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนชนิดอื่น ๆด้วยนะครับ อาจเป็นชา โกโก้ หรือแม้แต่น้ำอัดลมน้ำดำ (โคลา) ก็มีส่วนผสมของคาเฟอีนด้วย

หากงดเครื่องดื่มคาเฟอีนแล้วบ่าย ๆมีอาการง่วงก็แนะนำให้รับประทานผลไม้สดแทน ไม่ง่วง ได้งานแล้วยังได้สุขภาพดีด้วย

ส่วนตัวยาที่่คุณสอบถาม มีส่วนผสมของพาราเซตามอล หากรับประทานยาเกินขนาดที่แนะนำ คือ เกินวันละ 4 กรัม (ขนาด 500 มิลลิกรัม วันละ 8 เม็ด) หรือรับประทานยาซ้ำซ้อน เช่น รับประทานยาบรรเทาอาการไข้หวัด ร่วมกับพาราเซตามอล หรือ รับประทานยาบรรเทาปวด คลายกล้ามเนื้อ ร่วมกับพาราเซตามอล ก็อาจได้รับพาราเซตามอลเกินขนาดที่แนะนำ

พาราเซตามอล เป็นยาบรรเทาปวด ลดไข้ มีการกำจัดยาออกทางตับ ไม่ควรรับประทานยาติดต่อกันเกินวันละ 4 กรัม หรือการรับประทานติดต่อกันเกิน 5 วัน ก็อาจส่งผลให้ตับต้องมีการทำงานหนักขึ้น หรือการรับประทานร่วมกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ก็จะยิ่งซ้ำเติมทำให้ตับถูกทำลายมากขึ้นได้

หากต้องการทราบว่าสาเหตุเกิดจากยาหรือไม่ ก็ต้องมีการตรวจเลือดเพิ่มเติมครับ เนื่องจากยาประมาณ 80 เปอร์เซนต์มีการทำลายที่ตับ ดังนั้น ยาส่วนใหญ่จะมีรายงานอาการไม่พึงประสงค์ที่ทำให้เกิดเอนไซม์ตับเพิ่มขึ้นอยู่แล้ว หรือแม้กระทั่งอาหารทั่วไป หากมีการรับประทานประจำก็จะทำให้เอนไซม์ตับเพิ่มขึ้นได้เช่นกัน เช่น อาหารมัน ๆ พริกแห้ง ถั่วแห้ง สารเจือปนในอาหาร (ฟอร์มาลีน สารกำจัดแมลง วัชพืชฯ) ก็มีโอกาสเป็นไปได้เหมือนกัน

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล