กระดานสุขภาพ

ไวรัสตับอักเสบ กับการตั้งครรภ์
Anonymous

27 เมษายน 2560 09:18:32 #1

ไวรัสตับอักเสบ กับการตั้งครรภ์ สามีรักษาโรคไวรัสตับอักเสบซี โดยยา 1.Peginterferon 180MCG/AMP(PEGASYS) ฉีด 2.Ribavirin TAB 200 MG (COPEGUS) เริ่มรักษาฉีดยาเข็มแรก 21มิย.2559 และครบเข็มสุดท้าย เข็มที่ 24 เมื่อวันที่ 29พย.2559 ระหว่างรักษา หมอให้คุมกำเนิด และหลังรักษาเสร็จก็ให้คุมกำเนิด ตอนนี้วางแผนจะมีบุตร อยากทราบว่า จะสามารถมีบุตรได้เมื่อไหร่คะ [ปัจจุบันยังคุมกำเนิดอยู่ค่ะ]
อายุ: 28 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 43 กก. ส่วนสูง: 156ซม. ดัชนีมวลกาย : 17.67 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์

(สูติ-นรีแพทย์)

30 เมษายน 2560 17:05:44 #2

การที่สามีรักษาโรคไวรัสตับอักเสบซีด้วยยาฉีดและยากินต้านเชื้อไวรัสซีตามที่หมอแนะนำ แพทย์อาจจะกังวลเรื่องของยาซึ่งอาจจะมีผลต่อตัวอสุจิ ถ้ามีการตั้งครรภ์ในช่วงนี้ตัวอสุจิอาจจะมีคุณสมบัติไม่ดีจากผลของยา ซึ่งคงกลัวว่าจะเสี่ยงต่อการเกิดความพิการหรือผิดปกติของตัวอ่อนหรือทารกในครรภ์ได้ ดังนั้น แพทย์จึงห้ามสามี ไม่ให้มีบุตรกับภรรยาในช่วงนี้หรือช่วงที่ทำการรักษา อย่างไรก็ตาม จากการที่หมอไปค้นรายงานผู้ป่วยที่ได้รับยานี้และภรรยาตั้งครรภ์ ยังไม่พบว่า ยานี้ทำให้เกิดอันตรายต่อทารกหรือทำให้ทารกเกิดความพิการหรือผิดปกติแต่อย่างใด ซึ่งถ้าสามีหยุดการรักษาไปนานแล้วถึง 6 เดือนตอนนี้ก็ควรปล่อยให้มีการตั้งครรภ์ได้ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรยกเว้นการตั้งครรภ์ที่อาจมีปัญหาการแท้งบุตรหรือความพิการผิดปกติของทารกในครรภ์ตามธรรมชาติซึ่งไม่เกี่ยวกับการที่สามีรับประทานยาตัวนี้หรือฉีดยาตัวนี้จะพบได้ร้อยละ 2 อยู่แล้วจึงไม่ควรกังวลมากค่ะ ตอนนี้คุณสามารถปล่อยให้มีการตั้งครรภ์ได้แล้วค่ะ

Beeb*****w

24 พฤษภาคม 2560 02:59:07 #3

คุณมีความเสี่ยงจะเป็นไวรัสตับอักเสบบีหรือไม่ ? ไวรัสตับอักเสบบี เป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของโรคตับแข็งและมะเร็งตับ
คนบางคนไม่รู้ตัวว่าเป็นโรคนี้ โดยสามารถติดต่อกันได้คล้ายโรคเอดส์ แต่ส่วนมากจะติดต่อกันทางเลือดและการมีเพศสัมพันธ์ หากคุณมีความเสี่ยง จะเป็นไวรัสตับอักเสบบีสามารถติดต่อขอรับการตรวจเลือดจากแพทย์เฉพาะทางเกี่ยวกับการดูแลตัวเองและระมัดระวังไม่ให้แพร่เชื้อไปสู่คนใกล้ชิดได้ที่ V-Med Clinic เชียงใหม่ โทร 052-001119 หรือเข้าไปดูรายละเอียดในเว็บไซต์ http://www.vmedclinic.com