ถ้าคุณไม่มีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ คือ ยังไม่เคยร่วมเพศ หรือเคยแจ่ใช้ถุงยางทุกครั้ง ก็ไม่เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ อาการที่เล่ามา น่าจะเกิดจากการระคายเคือง แพ้ สารที่ใช้ เช่น สบู่ น้ำยาฆ่าเชื้อ หรือน้ำยาหล่อลื่นในถุงยาง ร่วมกับการเสียดสีจากการร่วมเพศหรือมีการร่วมเพศที่นานเกินไป ทำให้หนังหุ้มบวม แดง และเนื่องจากมีความอับชื้น จึงอาจเป็นเชื้อรา แนะนำให้ใช้สบู่อ่อนๆ เช่นสบู่เด็ก ห้ามใช้สบู่ยาหรือน้ำยาฆ่าเชื้อ เมื่อล้างแล้ว เช็ดเบาให้แห้ง ทายาที่มีส่วนผสมของยาแก้แพ้และเชื้อรา เช่น Triamcinolone 0.02%+ ยาเช้อราเช่น clotrimazole ทาบางเช้าเย็น น่าจะดีขึ้นใน 1 อาทิตย์ แต่ถ้ามีความเสี่ยงมาก่อน อาจต้องระวังเรื่องแผลเริม ที่เกิดจากเชื้อไวรัส โดยจะเป็นตุ่มน้ำใส แล้วแตกเป็นแผล มีประวัติเป็นๆหายๆ นอกจากนี้อาจมีไข้ ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโต ต้องรักษาโดยกินยาอะซัยโครเวียร์ (Aciclovir) ครั้งละ 200 มิลลิกรัม ทุก 4 ชั่วโมง (วันละ 5 เม็ด)ประมาณ 1 อาทิตย์ และเมื่อเป็นแล้ว มักจะเป็นๆหายๆ เพราะจะมีเชื้อเริม ไปแฝงตัวอยู่ที่ปมประสาทใต้ผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศ แต่การเป็นซ้ำครั้งต่อๆไปจะไม่รุนแรง โดยสรุป ขึ้นกับพฤติกรรมทางเพศและลักษณะของแผลที่เป็น แนะนำหาหมอหรือส่งรูปถ่ายชัดๆบริเวณที่เป็นและให้ข้อมูลทางเพศเพิ่มเติมครับ

นพ.อนุพงศ์