กระดานสุขภาพ
| แสบลิ้น ลิ้นไวต่อรส ลิ้นเปลี่ยนรส | |
|---|---|
|
15 พฤษภาคม 2558 06:51:13 #1 15.5.58 อายุ67ปี วันไหนทาน 1.อาหารหวานในภาพรวมมากกว่าปกติ ที่ลิ้นจะมีรสเปรี้ยว 2.ทานเค็มในภาพรวมมากกว่าปกติ ที่ลิ้นจะมีรสเค็ม ก่อนนอนหลังแปรงฟันและใช้สำลีเช็ดทำความสะอาดลิ้นเพื่อระงับฝ้าที่ลิ้น (ถ้าไม่เช็ดฝ้าที่ลิ้นจะมีมาก-หนาจนน่าเกลียด) ใช้แปรงสีฟัน หรือโลหะรูปตัวยูที่แพทย์ให้ใช้ขูดฝ้าที่ลิ้น ใช้แล้วยิ่งเพิ่มมากขึ้น ก่อนนอนรสที่ลิ้นจะมีรสตาม 1.หรือ2.ขึ้นอยู่กับรสอาหารที่ทาน บางวันรสเปรี้ยวหรือเค็มจัด จะเครียด ดื่มนำ้ก็ไม่ลดลงทำให้หลับยาก ไปพบหมอ หู-คอ-จมูก รับยาฆ่าเชื้อกับยาแก้อักเสบ มาหลายหมอหลายโรงพยาบาลชั้นนำของเอกชนแล้วก็ไม่หายขาด ก. จะแก้ไขอย่างไรดีครับ ข.สถาบันวิจัยอเมริกันบอกว่า แสบลิ้น ลิ้นไวต่อรส คืออาการของมะเร็งลำไส้ ซึ่งผมก็ส่องกล้อง ตัดเนื้องอกมะเร็งออกแล้ว อาการลิ้นไวต่อรสก็ยังไม่หาย ช่วยตอบว่าจริงๆแล้วป่วยเป็นโรคอะไรครับ ทำอัลตร้าซาวด์ตับ ที่ตับก็มีฝ้าขาวจับเต็มไปหมดครับ รอคำตอบอยู่นะครับ ขอขอบคุณล่วงหน้าครับ |
|
| อายุ: 67 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 60 กก. ส่วนสูง: 170ซม. ดัชนีมวลกาย : 20.76 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
พ.อ.นพ.ณฐพล จันทรอัมพร(แพทย์ หู คอ จมูก) |
16 พฤษภาคม 2558 06:29:54 #2 ผมคงต้องรักษาไปตามอาการ เป็นปลายเหตุที่เกิดจากอวัยวะภายในครับ ปรึกษาหมอระบบทางเดินอาหารด้วยก็จะดีนะครับ ใช้วิตามิน zinc kamillosan พ่น |
Elde*****i |
17 พฤษภาคม 2558 06:49:05 #3 17.5.58 ขอบคุณมากสำหรับคำตอบครับ ผมไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ โรคประจำตัวคือควาดันโลหิตสูง +ตับเอกเสบบีเรื้อรัง หมอทั้งสองแผนกนัดรับยาเจาะเลือดทุก 3 เดือน ผ่าน อัลตร้าซาวด์กับ CT Scan มาหลายครั้งแล้ว รักษามากว่า 5 ปีแล้วจะมีโอกาสหายขาดไหมครับ ? วิตามิน zinc kamillosan พ่น เคยใช้แล้วไม่ได้ผลครับ แถม zinc ทำให้ปวดหลัง กับแพ้วิตามิน บี ทุกชนิด กับยา Metthycobal 500ug(Mecobalamin) ทานแล้วประสาทไว เครียด ได้ยินเสียงเสียงก๊อกแก๊กเป็นสดุ้งครับ ขอถามเพื่มเติม เรื่องแสบลิ้น ลิ้นไวต่อรส ลิ้นเปลี่ยนรส ใช้ยาตามที่แจ้งมาข้างท้ายจะมีตัวใดรักษาให้หายขาดหรือไม่ และต้องทานนานเท่าใด ? หรือควรรับยาใดเพิ่มเติมดีครับ ยาที่เคยใช้มีดังนี้ ยา Amoxicillin ธรรมดาก็ไม่หาย แบบมีตัวยา Clavulanic Acid เม็ดสีขาวใหญ่ 1000 mg. ก็ยิ่งทำให้แสบลิ้น+ระคายในลำคอครับ ส่วนยา Desloratadine (Aerius) Tap.5mg ,Xanidine (Ranitidine (As hydrochloride) 150 mg, Levocetirizine 2HCI(Xyzal) Tab.5 mg.และ Clindramycin (Dalacin-C) Cap.300mg. ก็ไม่ช่วยให้ดีขึ้นแต่อย่างใดครับ ด้วยความนับถือและขอขอบคุณอีกครั้งครับ |
พ.อ.นพ.ณฐพล จันทรอัมพร(แพทย์ หู คอ จมูก) |
2 มิถุนายน 2558 16:45:55 #4 คุณน่าจะเป็นโรคจากความชราขาดวิตามินมากกว่าครับไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อจึงไม่ควรรับประทานยาปฏิชีวนะที่อาจทำให้ลิ้นเป็นฝ้าขาวมากขึ้นได้ครับ ผมก็ไม่ได้ตรวจยังวินิจฉัยโรคไม่ได้แค่เดาและให้ความเห็นไปครับ ถ้าอย่างไรควรกลับไปพบแพทย์ที่เคยรักษาครับ |
Elde*****i |
8 มิถุนายน 2558 11:44:26 #5 ขอบคุณ พ.อ.นพ.ณฐพล จันทรอัมพร ด้วยความนับถือ ELDER PERSON |
Elde*****i