กระดานสุขภาพ

รบกวนสอบถามอาการแน่นหน้าอก
Anonymous

8 พฤศจิกายน 2555 06:31:42 #1

ก่อนอื่นผมขอลำดับเหตุการณ์คร่าวๆ ดังนี้ครับ

1.ประมาณ 2 ปีที่แล้วเคยเกิดอาการวูบหมดสติในห้องน้ำขณะยืนปัสสาวะ จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ล้มฟาดก๊อกน้ำศรีษะแตกเย็บไป 5 เข็ม ก่อนหน้าไม่มีอาการหรือสิ่งผิดปกติ ร่างกายปกติ นอนพักผ่อน7-9 ชม.ต่อวัน ไปโรงพยาบาลหมอตรวจเลือดและแจ้งว่าน้ำตาลในเลือดต่ำ จากนั้นทำแผลและให้กลับบ้านได้ครับ

2.หลังจากนั้นประมาณ 3-4 เดือนหลังจากมีเพศสัมพันธ์เสร็จประมาณ 5-10 นาที เกิดอาการแน่นหน้าอก ใจสั่น หน้ามืด หายใจติดขัด มีอาการปวดร้าวและชาไปที่แขนด้านซ้าย มีเหงื่อออกจำนวนมากทั้งที่อยู่ในห้องแอร์ ตัวเย็น เหมือนจะขาดสติ แฟนต้องเรียกบ่อยๆ และบีบนวดและให้ยาหอมกิน จากนั้นนั่งพักประมาณ 30นาที จึงกลับมาเป็นปกติ พอรุ่งเช้าไปพบหมอที่โรงพยาบาล หมอเจาะเลือดและวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจ คลื่นไฟฟ้าปกติ แต่เลือดมีปริมาณโคเลสเตอรอลประมาณ 290 หมอจึงให้ควบคุมอาหารและให้เจาะเลือดซ้ำทุกๆ 3 เดือน หลังจากเจาะอยู่ 3 ครั้งโดยคุมอาหารบ้างแล้ว ปรากฏว่าโคเลสเตอรอลแทบจะไม่ลดลงเลย และไตรกลีเซอไรมีปริมาณสูงขึ้นด้วย(เนื่องจากทานขนมปังกับกาแฟทุกเช้า) หมอจึงให้ยาลดไขมันไตรกลีเซอไรมาทาน 2 เดือน และกลับไปเช็กอีกครั้งหลังจากยาหมด หลังจากทานยาหมดกลับไปเจาะเลือดปรากฏว่าโคเลสเตอรอลลดลงเหลือประมาณ 240 ไตรกลีเซอไรประมาณ 190 หมอจึงให้หยุดยาแต่ให้คุมอาหารต่อ และเลื่อนระยะเวลาเจาะเลือดออกไปเป็นทุกๆ 6 เดือนแทน

3.หลังหยุดทานยาได้ 1 เดือน มีอาการแน่นหน้าอกอีกครั้งหลังมีเพศสัมพันธ์เสร็จ ประมาณ 5 นาที เกิดอาการแน่นหน้าอกอีกครั้ง อาหารเหมือนเดิมแต่ครั้งนี้ไม่มีอาการปวดร้าวลงแขน แต่ปวดร้าวขึ้นบริเวณต้นคอแทน ใจสั่น หน้ามือ หายใจติดขัด มีเหงื่อออกจำนวนมาก ตัวเย็น และหลังจากกินยาหอมและนั่งพักประมาณ 30นาที จึงเป็นปกติ ตอนเช้าจึงไปหาหมออีกครั้ง หมอทำการเจาะเลือด และวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจ ผลคลื่นไฟฟ้าหมอบอกว่ามีทริก(ผมไม่ทราบว่าคืออะไรแต่หมอบอกเช่นนั้น) 4 จุด ส่วนเลือดมีปริมาณโคเลสเตอรอล 294 หมอจึงให้อกยาใต้ลิ้นและให้ออกซิเจน พร้อมทั้งให้นอนดูอาการในห้อง ICU จากนั้นคุณหมอโรคหัวใจลองตรวจด้วยการเอคโค่ (ECHO) ในตอนเย็น แต่ก็แจ้งว่าไม่พบสิ่งผิดปกติ ดังนั้นจึงให้นอนค้างที่โรงพยาบาล 1 คืน และอีก 1 วันก็ให้ออกจากโรงพยาบาล และหมอเจ้าของไข้แจ้งว่าน่าจะเป็นลมตีกลับหรือกรดไหลย้อน จึงให้ยาลดไขมันและยาลดกรดและแก๊สมาให้ทานที่บ้าน

จากเหตุการณ์ทั้งหมดที่ผ่านมาทุกวันนี้หากพักผ่อนน้อยหรือเครียดมักจะมีอาการเจ็บเสียดบริเวณหน้าอก บางครั้งมีอาการคล้ายเดิมคือแน่นหน้าอกเหมือนจะหน้ามืด แต่ก็พยายามคุมสติและควบคุมการหายใจเข้าออกหรือกระแอมเพิ่อให้อาการดีขึ้น ซึ่งเป็นมา 1-2 ครั้งแล้ว แต่ไม่ถึงกับเหมือนครั้งที่ผ่านมา ตอนนี้ก็พยายามปรับเปลี่ยนนิสัยการกิน ทานอาหารเช้าทุกเช้า อาหารเย็นหากเป็นไปได้จะไม่ทานแป้ง และเน้นทานผักมากขึ้น แต่สายงานที่ทำทำให้ไม่มีโอกาสออกกำลังกายเท่าไรนัก แต่จะพยายามลุกขึ้นเดินไปมาทุก 2ชม.

อยากรบกวนคุณหมอขอคำแนะนำและวินิจฉัยเบื้องต้นว่าอาการเหล่านี้น่าจะเป็นเพราะเหตุใด และควรจะปฏิบัติตัวอย่างไรเมื่อมีอาการแน่นหน้าอกหรือมีอาการดังที่กล่าวมาจะได้ให้คนใกล้ตัวปฏิบัติได้ถูกต้องเวลาฉุกเฉิน

ขอบคุณครับ

อายุ: 33 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 62 กก. ส่วนสูง: 161ซม. ดัชนีมวลกาย : 23.92 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
รศ.นพ.สมภพ พระธานี

(แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยศาสตร์ทรวงอก)

9 พฤศจิกายน 2555 09:33:28 #2

อาการเจ็บหน้าอกน่าจะเกิดจากกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด เนืองจากอายุน้อยอาจมีปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เส้นเลือดหัวใจตีบหลายตัวเช่น กรรมพันธุ์ ความอ้วน ความเครียด สูบบุหรี่ ไขมันในเลือดสูง หรือเปนโรคเส้นเลือดตีบ หากมีปัจจัยเสี่ยงมากควรตรวจสวนหัวใจเพื่อดูเส้นเลือดหัวใจ ปัจจัยเสี่ยงน้อยควรติดตามการรักษากับแพทย์โดยใกล้ชิด

 

นพ.สมภพ

Anonymous

13 พฤศจิกายน 2555 04:35:34 #3

ขอบพระคุณคุณหมอมากครับ

รบกวนถามคุณหมอเพิ่มเติมอีกนิดครับ

นอกจากทำการสวนหัวใจแล้ว หากทำการตรวจด้วยการวิ่งสายพาน จะทตรวจสอบได้หรือไม่ครับ

รศ.นพ.สมภพ พระธานี

(แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยศาสตร์ทรวงอก)

22 พฤศจิกายน 2555 09:50:56 #4

อาการที่น่าจะเป็นกล้ามเน้อหัวใจขาดเลือดชนิดชั่วคราว ปัจจัยเสี่ยงคือไขมันในเลือดสูง ขาดการออกกำลังกาย ปัจจัยเสี่ยงอื่นไม่ได้บอกเช่น เครียด พักผ่อนน้อย ดื่มกาแฟมากไป เบาหวาน ความดันเลือดสูง ประวัติโรคหัวใจในครอบครัว ดื่มสุราจัด คิดว่าไม่มี

สิ่งที่ควรทำคือออกกำลังกายสมำเสมอ พักผ่อนให้พอ ควบคุมระดับไขมันทั้งสองตัวให้ปกติโดยคุมอาหารและทานยา

หากยังมีอาการควรตรวจ CT angiogram หรือสวนหัวใจดูเส้นเลือดหัวใจ และควรตรวจกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคหัวใจ

 

นพ.สมภพ