เป็นโรคท้องผูก ความเครียดทำให้เป็นมากขึ้นได้

การรักษามีทั้งการปฏิบัติตัวและยา

• 1. ดื่มน้ำวันละ 2 ลิตร
• 2. เคลื่อนไหวร่างกายบ่อยๆ ออกกำลังกายยิ่งดี
• 3. กินผัก ผลไม้ ให้เพียงพอ แต่จะมีผลไม้บางชนิดที่กินแล้วลมเยอะไม่ควรกินช่วงปวดท้องเช่นมะม่วง แตงโม แอปเปิ้ล กระเทียม หัวหอม หรือผักสด
• 4. มื้อเช้า ควรกินอาหารที่มีแป้งเช่นข้าว จะช่วยกระตุ้นการขับถ่าย
• 5. ไม่ควรทำกิจกรรมอย่างอื่นตอนถ่ายเช่นเล่นมือถือ อ่านหนังสือ และเวลาปวดถ่ายให้รีบไปทันที อย่ากลั้นไว้
• 6. หากถ่ายที่ชักโครก อาจเอาเก้าอี้เตี้ยๆ มารองเท้า ให้เข่าเรางอขึ้น ให้คล้ายกับท่านั่งยองๆ จะช่วยให้มุมของลำไส้ตรงมากขึ้น
• 7. หากไม่อยากใช้ยา ก็มีการฝึกการขับถ่ายอย่างถูกวิธี โดยการใช้เครื่องมือค่ะ แต่ทำได้เฉพาะในโรงพยาบาลโรงเรียนแพทย์ใหญ่ๆ และต้องไปฝึกถ่ายกับเครื่องที่โรงพยาบาลบ่อยและหลายครั้ง ทำให้มีความไม่สะดวก
• 8. ใช้ยาระบายช่วย กรณีทำทุกทางแล้วไม่ได้ผล อาจใช้ยาช่วยได้ ซึ่งควรใช้ยาเป็นบางครั้งจะดีกว่าใช้ประจำ และอาจใช้วิธีสลับชนิดของยาไปมา กรณีไม่ได้ผล
• - ยาระบายกลุ่มไฟเบอร์เช่น muciilin
• - ยาระบายชนิดน้ำเช่น MOM (milk of magnesia)
• - ยาระบายเม็ดเช่นมะขามแขก

ยังไง ก่อนจะใช้ยา ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนจะดีกว่าค่ะ

ตอบคุณ649ed

ได้เรียนปรึกษากับคุณหมอพญ.ธนิตา สุทธิชัยมงคล แพทย์ผู้เชี่ยวชาญสาขาอายุรศาสตร์ระบบทางเดินอาหารแล้ว คุณหมอแนะนำให้คุณต้องพบแพทย์อายุรกรรมระบบทางเดินอาหารอย่างจริงจังต่อเนื่อง เพราะแพทย์ที่จะให้คำแนะนำและให้การรักษาคุณได้เหมาะสม จำเป็นต้องสอบถามรายละเอียดประวัติอาการโรคและประวัติทางการแพทย์อื่นๆของคุณเพิ่มเติม รวมทั้งการตรวจร่างกาย อาจต้องมีการตรวจทางทวารหนัก และการตรวจสืบค้นอื่นๆเพิ่มเติมตามดุลพินิจของแพทย์ที่ได้ตรวจร่างกายคุณ

และเนื่องจากต้องเป็นการดูแลรักษาที่ต่อเนื่อง จึงแนะนำให้คุณพบแพทย์อายุรศาสตร์ระบบทางเดินอาหารในโรงพยาบาลใดก็ได้ที่คุณสะดวกในการเดินทางไปพบแพทย์ได้อย่างต่อเนื่องตามแพทย์นัด และคุณให้ความมั่นใจได้ว่า แพทย์ไทยทุกโรงพยาบาลมีมาตรฐานทางวิชาชีพเท่ากัน ทุกท่าน ทุกโรงพยาบาลคะ

ศาสตราจารย์เกียรติคุณ พญ. พวงทอง ไกรพิบูลย์

บรรณาธิการฝ่ายแพทย์