ไม่ผิดรูป นี่คืออะไรหรอคะ

ปากรูทวารมันเป็นแผลเขียนยาวเหมือนฉักอะครับแล้วมี ติ่งด้วย  ปกติก่อนหน้าผมไม่เป็นอะครับ  แผลเกิดจากการอั้นอุจะละ อะผม ทำให้อุจะละก้อนใหญ่เลยเบ่งยากอะ ต้องแก้ยังไงดี

การที่มีติ่งเนื้อที่บริเวณทวารหนัก มีหลายสาเหตุด้วยกัน เช่น 1. ติ่งเนื้อที่เป็นแผลเป็นจากการที่มีการฉีกขาดของผิวหนังรอบทวารหนัก ซึ่งอาจจะเป็นจากการที่อุจจาระแข็ง ท้องผูก เวลาเบ่งก็จะบาดจนเป็นแผล เมื่อแผลหายก็กลายเป็นแผลเป็นหรือติ่งเนื้อ โดยส่วนใหญ่แล้ว ถ้าไม่ได้เป็นมากก็ไม่จำเป็นต้องรักษาแต่ถ้าเป็นแผลเป็นขนาดใหญ่ ก็อาจจะทำการผ่าตัดตกแต่งได้ 2. เป็นฝีหรือมีการอักเสบของต่อมใต้ผิวหนังจากการติดเชื้อแบคทีเรีย เมื่อฝีแตกก็ทำให้เป็นแผลเป็นได้ แต่ถ้าเป็นบ่อยๆ ก็อาจจะกลายเป็นฝีคัณฑสูตซึ่งจะมีรูเปิดทะลุเข้าไปในล้ำไส้ใหญ่ ทำให้มีอุจจาระออกมาตามท่อได้ รักษาโดยการผ่าเลาะเอาท่ออก แต่มักจะเป็นๆหายๆ 3. ถ้ามีความเสี่ยงทางเพศ เช่น เป็นเกย์หรือรักร่วมเพศที่มีการสอดใส่ร่วม่วมเพศทางทวานหนัก ก็อาจจเป็นโรคติดต่อ เช่น หูดหงอนไก่ จะมีลักษณะเป็นติ่งเนื้อยื่นออกไปคล้ายหงอนไก่ หูดหงอนไก่เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธุ์ที่พบได้บ่อยขึ้น เกิดจากเชื้อไวรัส Human
Papilloma Virus (HPV) การรักษาคือใช้ยา podophyllin หรือ trichloracetic acid จึ้อาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง ประมาณ 4-6 อาทิตย์ จี้หรือใช้ไฟฟ้า หรือเลเซอร์ ซึ่งจะฉีดยาชาเพื่อไม่ให้เจ็บเวลาจี้ 4. ริดสีดวงทวาร สาเหตุของริดสีดวงทวาร มีหลายอย่าง เช่น ลักษณะนิสัยการถ่ายผิดปกติ (ท้องผูก หรือ ท้องเสีย) ออกกำลังกายน้อย รับประทานอาหารที่มีเส้นใยเช่นผักผลไม้น้อย เบ่งอุจจาระนาน อ้วน และนั่งเป็นเวลานานๆ ถ้าเป็นมากขึ้น เส้นเลือดจะโป่งออก และโผล่ออกมาอยู่ด้านนอกได้ ถ้ามีการรักษาที่ถุกต้อง ตั้งแต่เรื่องสุขอนามัย การกินอาหารประเภทผัก ผลไม้ ดื่มน้ำมากๆ ปรับเรื่องการขับถ่ายซึ่งการฝึกต้องทำบ่อยๆจนเกิดความเคยชิน หรืออาจรักษาด้วยการฉีดยาให้ยุบ การผูกเส้นเลือด การจี้ด้วยเครื่องมือต่างๆ รวมทั้งการผ่าตัด ขึ้นอยู่กับความรุนแรง ถ้ารักษาแล้วก็จะไม่เห็นจากภายนอก 5.โรคอื่นๆ เช่น หูดซิฟิลิส เนื้องอก หรืออาการเริ่มต้นของมะเร็งเป็นต้น โดยสรุป ขึ้นอยู่กับลักษณะที่เป็นร่วมกับพฤติกรรมเสี่ยง แนะนำหาหมอหรือส่งรูปถ่ายชัดๆบริเวณที่เป็นมาให้ดูเพิ่มเติมครับ

ถ้าผ่าตัดตกแต่งต้องใช่ค่ารักษาประมาณเท่าไรครับ

เรื่องค่ารักษาพยาบาลของผู้ป่วยแต่ละคน เป็นเรื่องที่แพทย์ และโรงพยาบาลที่รักษาผู้ป่วยเท่านั้นที่พอจะประเมินคร่าวๆให้ได้ แพทย์ทางเว็บฯตอบให้ไม่ได้คะ เพราะจะแตกต่างกันมาก ขึ้นกับหลายปัจจัยมาก เช่น

• โรงพยาบาลรัฐหรือเอกชน (โรงพยาบาลรัฐก็ยังแบ่งเป็น โรงพยาบาลที่เป็นโรงเรียนแพทย์ หรือโรงพยาบาลที่เป็นของกระทรวงสาธารณสุข)
• ลักษณะห้องกรณีเป็นผู้ป่วยใน (เช่น ห้องรวม ห้องเดียว)
• ประเภทของโรคและความรุนแรง/หรือความซับซ้อนของโรค
• เทคนิคการรักษากรณีผ่าตัด -ประเภทเครื่องมือที่แพทย์ใช้แต่ละโรงพยาบาลที่จะต่างกัน
• ประเภทยาต่างๆที่แพทย์ใช้ในการรักษา (เช่น ยาต่างประเทศ หรือยาในบัญชียาหลักแห่งชาติ)
• และค่าบริการอื่นๆของโรงพยาบาล (เช่น ค่าพยาบาล และค่าอำนวยความสะดวกต่างๆ)
• ดังนั้น แนะนำคุณ พบแพทย์โรงพยาบาลที่คุณสะดวก ให้แพทย์ได้ตรวจ และเมื่อแพทย์แนะนำการรักษา คุณควรปรึกษา/สอบถามถึงค่าใช้จ่าย คุณจึงจะได้คำตอบที่ใกล้เคียงคะ

พญ. พวงทอง ไกรพิบูลย์
บรรณาธิการฝ่ายแพทย์