กระดานสุขภาพ
พบการผิดปกติที่ไตด้านซ้าย จากการทำ MRI | |
---|---|
25 มกราคม 2556 09:39:10 #1 23 ธ.ค. 55 ดิฉัน อายุ 37 ปี มีอาการเกี่ยวเนื่องกับไต ข้างซ้ายดังต่อไปนี้ มีดรคประจำตัว คือ เป็นไทรอยเป็นพิษมา 3 ปี แล้วค่ะ
16 ม.ค. 56 เคยเข้ามาปรึษา ครั้งนึงแล้วก่อนหน้านี้ เกี่ยวกับเรื่อง อาการปวดหลัง สาเหตุเนื่องมาจากท่อไปตีบประมาณ ปลายปีที่ผ่านมา ครั้งล่าสุดตามคำแนะนำของคุณหมอ ทาง หาหมอ.com ไปครั้งนึงแล้ว และได้ไปตรวจปัสสาวะ กับ ตรวจเลือดเพิ่มที่โรงพยาบาลพุทธชินราช ซึ่งหมอ ที่นั่นบอกว่า ผลปกติทุกอย่าง แต่ที่น่าแปลกใจก็คือ อาการปวด มันเพิ่มขึ้นตลอดเวลา และ ขยายวงกว้างขึ้น จากระดับเดิม อยู่ที่บริเวณเอวด้านซ้าย ร้าวมาด้านหน้า บริเวณท้องน้อย และ มีอาการ ตัวรุม ๆ ตลอดเวลา มีไข้ แต่วัดไม่ขึ้น
วันที่ 17 ม.ค. ขับรถเดินทางไป กทม. เช้าวันที่ 18 ตื่นนอนแล้วลุกเดินไม่ได้ ไประมาณ 10-20 นาที เนื่องจาก เจ็บบริเวณ ปลายท่อปัสสาวะ คล้ายมีเหล็กมาคีบไว้ และ เจ็บ เข้าไปที่กระเพาะปัสสาวะ เหมือนมีอะไร มาแทงข้างใน เป็น อยู่ 2 วัน อาการปวดหลัง ปวดมาก 19 ม.ค. 56 ขับรถเดินทางกลับ พิษณุโลก เข้า รพ.อีกครั้ง ด้วยอาการปวดหลัง มากขึ้น และ เวลา ขับปัสสาวะ เจ็บที่ท่อปัสสาวะ และ กระเพาะปัสสาวะมาก วัดไข้ไม่มีึไข้ แต่ ตัวร้อน และ ร้อนไข หายใจออกมาร้อน ริมฝีปากแห้ง และ แดง ทำการตรวจด้วยอัตราซาวร์ และ ทำการ MRI ผลปรากฎว่า พบความผิดปกติที่ไตข้างซ้าย บวม ท่อไตตีบ เส้นเลือด พันอ้อมไต ต่อมน้ำเหลือโต (ทั้ง ๆ ที่เพิ่งจะผ่าออกไปก่อนหน้านี้ แล้ว วันที่ 11 ม.ค. 53) แต่ไม่มีก้อนเน้ื้อ การรักษาที่ทำอยู่คือ ให้ทานยาแก้ปวดเมื่อมีอาการปวด และ ตอนนี้ มีอาการกระเพาะอาหารอักเสบร่วมด้วย จากการกินยา ดังต่อไปนี้ 1. CeleBrex 400 mg. 2. Prevacid FDT 300 mg. 3. Librax (5/2.5 mg) ขอถามดังต่อไปนี้ค่ะ 1. โอกาสที่ ต่อมน้ำเหลือจะกลายเป็นเนื้อร้าย มีมากแค่ไหน 2. วิธีการดูแล จะต้องทำอย่างไรบ้าง 3. กินยาแก้ปวดมาก ๆ มีโอกาส เป็นไตวายเรื้อรังได้ไหม 4. มีวิธีการรักษาแบบไหนบ้าง ที่ไม่ต้องผ่าตัด หรือ ผ่าตัดเอาต่อมน้ำเหลือง โดยไม่ กระทบกับเส้นเลือด
กลุ้มใจมากค่ะ กับ อาการปวดหลัง และ อาการร้อนข้างใน แต่ไม่มีไข้ ตลอด และ ทรมารมากค่ะ ขอบพระคุณค่ะ กับคำแนะนำ จากทุก ๆ ท่าน
|
|
อายุ: 38 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 84 กก. ส่วนสูง: 155ซม. ดัชนีมวลกาย : 34.96 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
ศาสตราจารย์เกียรติคุณ พญ. พวงทอง ไกรพิบูลย์(วว.รังสีรักษา และเวชศาสตร์นิวเคลียร์) |
25 มกราคม 2556 11:10:48 #2 คุณช่วยตอบกลับมาด้วยคะว่า ที่คุณผ่าตัดรังไข่และพบมีโรคกระจายไปต่อมน้ำเหลืองแล้ว แพทย์แจ้งคุณว่า คุณเป็นโรคอะไร เพราะเป็นเรื่องสำคัญมากที่จะช่วยการวินิจฉัยหาสาเหตุอาการปวดหลังของคุณ
พญ. พวงทอง ไกรพิบูลย์ |
Moun*****e |
26 มกราคม 2556 06:40:53 #3 ตอบกลับค่ะ 1. เมื่อปี 2538 แต่งงาน และตั้งวครรถ์ ได้ 6 สัปดาห์ เกิดอาการแท้ง เนื่องจาก มัช๊อกโกแลตซีด ที่รังไข่ด้านขวา ทำการผ่าตัดเลาะออก 2. เดือน ตุลาคม 2552 ตรวจสุขภาพประจำปี การบวมของไตด้านซ้ายแต่ไม่มาก 3. ธันวาคม เริ่มมีอาการปวดท้องน้อย ด้านซ้าย มีไข้ ตัวรุมตลอด ปวดหลังด้านซ้าย บริเวณเอว 4. 10 มกราคม 2553 เข้า รพ. ด้วยอาการ ปวดหลัง ปัสสาวะอักเสบ 4.1 ทำการอัตราซาวร์ ตรวจภายใน 4.2 ทำการ X-ray ด้วยการฉีดสี พบการอุดตันของท่อปัสสาวะ 4.3 มีอาการปวดท้อง ร่วม ด้วยการปวดหลัง ไม่พบการผิกปติของมดลูก คลำบริเวร ท้องน้อย ช่วงสะโพก พบว่าบริเวณนั้นบวม ทำการ ฉีดสี และ ทำ MRI พบ ถุงน้ำที่รังไข่ ต่อมน้ำเหลืองโต และ กระจาย ในช่องท้อง มีพังพืด จากการผ่าตัด เมื่อ ปี 2538 และ ทำการผ่าตัดมดลูกออกทั้งหมด พร้อมต่อมน้ำเหลือ และ นำชิ้นเนื้อไป ตรวจหาเชื้อ มะเร็ง ผลตรวจชิ้นเนื้อ ไม่พบ มะเร็ง 5. ต่อมา ปี 2554 เข้า - ออก รพ. อีก ด้วยอาการ กระเพาะปัสสาวะ อักเสบ ปัสสาวะ ไม่ออก หรือ ออกมากเกิน เข้าห้องน้ำบ่อย พบการติดเชื้อ ทำการส่องกล้อง ฉีดสี ดูการทำงานของไต และ ตวงน้ำดื่ม ตวงปัสสาวะที่ออกมา 6. พ.ย. - ธ.ค. 2555 เข้า รพ.อีกครั้งด้วยอาการปวด หลังอีกครั้ง X- Ray ฉีดสี ฉีดยาฆ่าเชื้อ กระเพาปัสาสวะอักเสบ อยู่ รพ. 13 วัน 7. 19 - 24 ม.ค. เข้า รพ. อีกครั้ง ด้วยอาการปวดหลัง ร้าวขึ้นมาถึงชายโครง ทำการ อัตรซาวร์ พบการบวมที่ไตซ้ายเพิ่มขึ้น แต่ ไม่มาก ท่อไตตีบ MRI พบอาการบวมของไต ต่อมน้ำเหลืองโต ตอนนี้มีผลการรักษา เกี่ยวกับไตบวม ตั้งแต่ ปี 2554 - 2555 พร้อมฟิมส์ x-ray ผลการรักษาค่ะ หากคุณหมอต้องการดิฉันจะจัดส่งให้คุณหมอ หรือ เข้าพบได้เลยค่ะ มีอีกเรื่องค่ะ ไม่ทราบว่าถ้าดิแันต้องกำลังกายไม่ทราบว่าเต้นแอร์โรบิคได้ไหมค่ะ โดยที่ใช้ท่าง่าย ๆ เพื่อไม่ให้มีอาการปวดหลัง มากกว่าเดิมค่ะ ขอขอบพระคุณ คุณหมอเป็นอย่างสูงค่ะ ที่ติดตามและ เอาใจใส่ |
ศาสตราจารย์เกียรติคุณ พญ. พวงทอง ไกรพิบูลย์(วว.รังสีรักษา และเวชศาสตร์นิวเคลียร์) |
27 มกราคม 2556 04:50:46 #4 ขอตอบรวมกันทั้งหมด ดังนี้คะ อาการปวดหลังและอาการทั้งหมดที่คุณเล่ามา น่ามีสาเหตุสัมพันธ์กับไตบวม ท่อไตตีบ และการมีต่อมน้ำเหลืองในท้องโต ซึ่งถ้ารักษาแก้ไขสาเหตุเหล่านี้ได้ อาการปวดของคุณน่าจะดีขึ้น แต่สาเหตุใดที่ทำให้ ท่อไตตีบ ไตบวมและต่อมน้ำเหลืองในท้องโต รวมทั้งวิธีรักษาและวิธีการในการออกกำลังกายของคุณ คุณควรต้องปรึกษาสอบถามจากแพทย์ผู้ให้การดูแลรักษาคุณ เพราะเป็นผู้ที่จะให้คำตอบได้ดีที่สุด แพทย์ทางเว็บไม่สามารถอธิบายและแนะนำได้ เพราะโรคของคุณซับซ้อนเกินกว่าจะตอบโดยแพทย์ทางเว็บคะ ในส่วนเรื่องยาแก้ปวดต่างๆก็เช่นเดียวกัน คุณควรปรึกษาแพทย์ที่รักษา เพราะแพทย์จะทราบข้อบ่งชี้การใช้ยาให้เหมาะสมกับโรคและอาการของคุณคะ
พญ. พวงทอง ไกรพิบูลย์ |
Moun*****e