อาการที่คุณเล่ามา น่ามีสาเหตุจาก โรคอาหารไม่ย่อย (อ่านเพิ่มเติมใน เว็บ haamor.com) จากที่คุณกินมากเกินไป

อย่างไรก็ตาม อาจมีสาเหตุได้จากหลายๆสาเหตุ เช่น

• โรคกระเพาะอาหารอักเสบ
• มีแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้เล็ก (แผลเปบติก)
• โรคกรดไหลย้อน
• โรคนิ่วในถุงน้ำดี หรือ
• โรคของตับอ่อน

ทั้งนี้ ทางแพทย์เรียก อาการปวดในลักษณะของคุณ คือเกิดจากเนื้อเยื่อ/ อวัยวะหนึ่งแล้วส่งผลมีอาการอีกเนื้อเยื่อ/อวัยวะหนึ่งด้วยว่า radiating pain คือ อวัยวะ/เนื้อเยื่อหลายอวัยวะที่อยู่ในบริเวณเดียวกันจะควบคุมด้วยเส้นประสาทที่สัมพันธ์กัน ดังนั้นเมื่อมีอาการจากเส้นประสาทของเนื้อเยื่อ/อวัยวะหนึ่งถูกรบกวน (เช่นการขยายตัวของกระเพาะอาหารจากกินอาหารมากเกินไป) ก็จะส่งผลให้เกิดอาการปวดในบริเวณอื่นๆที่อยู่ใกล้เคียงหรืออยู่ติดกันได้

คำแนะนำ: จากค่าดัชนีมวลกาย คุณเริ่มมีน้ำหนักตัวเกินแล้ว และเมื่อร่วมกับเมื่อกินอาหารปริมาณมากจะส่งผลให้เกิดการปวดหลัง คุณจึงควรจำกัดปริมาณอาหารที่บริโภคเพื่อลดปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดอาการดังกล่าว และควรต้องควบคุมน้ำหนักไม่ให้เกิดโรคอ้วน

แต่ถ้ามีอาการมากขึ้น หรือเป็นบ่อยขึ้น หรือเป็นทุกวัน หรือปรับพฤติกรรมการบริโภคแล้ว อาการยังคงอยู่ ก็ควรต้องแยกว่า คุณมีโรคอะไรดังกล่าวแล้วหรือไม่ หรือเมื่อคุณกังวลในอาการ คุณควรพบแพทย์คะ อาจเป็นแพทย์ทั่วไป หรือถ้าคุณสะดวกก็พบแพทย์เฉพาะทาง อายุรกรรมทางเดินอาหารคะ

บรรณานุกรม

1. http://www.livestrong.com/back-pain-after-eating/ [2012, Dec 5].
2. http://www.gpnotebook.co.uk/simplepage.cfm?ID=597295126 [2012, Dec 5].
3. http://www.patient.co.uk/leaflets/epigastric_pain_radiating_to_back.htm [2012, Dec 5].

พญ. พวงทอง ไกรพิบูลย์

ส่วนของผมมีอาการ 

ตื่นมาก็รู้สึกปวด ตอนกินข้าวกินน้ำก็รู้สึกปวดตอนนั้นเลย

จะปวดตรงด้านหลังข้างซ้าย เหมือนอาการปวดเมื้อยธรรมดา แต่มันปวดเป็นจุดๆ

อยากทราบว่าแบบนี้ มันเกิดจากอะไร และมันเป็นแค่กล้ามเนื้อ รึเป็นภายในทางเดินอาหารครับ